Audio Interface ที่ดีที่สุด !! ในปี 2022
สตูดิโอ
Audio Interface ที่ดีที่สุด !! ในปี 2021
Audio Interface 2021 ที่ดีที่สุด | หากคุณกำลังมองหา หรือกำลังตัดสินใจที่จะซื้อ Audio Interface สักตัว ที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน และให้เสียงที่ดีเยี่ยมสำหรับ Home Studio ของคุณ ด้วยพลังเสียง และความเป็นเลิศของเสียงที่มีอยู่ในอุปกรณ์เหล่านี้ มันก็ขึ้นอยู่กับจำนวน Input / Output และคุณสมบัติที่คุณต้องการ ดังนั้นบทความนี้จะเป็นการรวบรวม Audio Interface ที่ดีที่สุด ในปี 2021 ที่รวบรวมโดย Sweetwater ทั้งประเภท Thunderbolt และ USB ที่คุณควรมีไว้พิจารณาสำหรับการใช้งานใน Home Studio ของคุณ
Thunderbolt Audio Interface
- Universal Audio Apollo x4 Heritage Edition
หากคุณกำลังเล็ง ๆ Audio Interface จากแบรนด์ Universal Audio แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี Universal Audio Apollo x4 Heritage Edition ก็เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ มันสามารถเทียบประสิทธิภาพได้กับ Audio Interface รุ่นใหญ่ ๆ ของ UA เป็นการออกแบบเดสก์ท็อปให้มีความคล่องตัว เคลื่อนย้ายง่าย ทำให้รู้สึกเหมือนทุกพื้นที่ในบ้านเป็นสตูดิโอของคุณ มีภาคโปรเซสเซอร์แบบ QUAD Core อันทรงพลัง ช่วยให้คุณสามารถทำงานได้โดยไม่ติดขัด พร้อมด้วย Unison Pre-amp ที่เป็นตำนานของ UA ในขณะนี้ และภาคแปลงสัญญาณเสียง AD/DA ระดับคุณภาพชั้นยอด ค่าความหน่วงเวลา (Latency) ที่ต่ำกว่า 2ms และความสามารถในภาคขยายที่เพียงพอ ทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพ และประสิทธิภาพเสียงระดับสูงสุด ยิ่งไปกว่านั้น Universal Audio Apollo x4 Heritage Edition ยังมาพร้อมกับ Plug-In ที่ได้รับรางวัลของ UA กว่าสิบรายการ และชุด Realtime Analog Classics Plus ด้วยการจำลองที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ คุณสามารถใส่ลงไปในโปรเจคใด ๆ ก็ได้ ด้วยคาแรคเตอร์ของเสียงที่มีความคลาสสิก และสมจริง
Plug-In ที่แถมมากับ Universal Audio Apollo x4 Heritage Edition มีดังต่อไปนี้ :
- UA 1176 Collection
- Teletronix LA-2A Classic Leveler Collection
- Pultec Passive EQ Collection
- Fairchild Tube Limiter Collection
- UA 610 Tube Preamp & EQ Collection
- Teletronix LA-3A Audio Leveler
- Helios Type 69 Preamp and EQ Collection
- V76 Preamplifier
- UA Oxide Tape Recorder
- UA Pure Plate Reverb
- Universal Audio Apollo Twin X QUAD Heritage Edition
อีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมจากแบรนด์ Universal Audio ในการนำ Plug-In UAD เข้าสู่คอมพิวเตอร์ของคุณโดยผ่านการเชื่อมต่อแบบ Thunderbolt ทั้งระบบปฏิบัติการ Mac และ Windows ด้วยตัวอินเตอร์เฟสที่มี 10-in/6-out , 2 mic input , 2 Unison Pre-amp พร้อมด้วยพอร์ทเชื่อมต่อ Optical และค่า Latency ที่แทบจะเป็นศูนย์ ภาคแปลงสัญญาณเสียง AD/DA ที่ถูกอัพเกรดมาให้แล้วในระดับ Elite-Class ภาคโปรเซสเซอร์แบบ QUAD Core ที่ช่วยในการประมวลผล Plug-In และการมิกซ์เพลงบนโปรแกรม DAWs ต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์ เช่น Pro Tools , Cubase , Ableton Live เป็นต้น Universal Audio Apollo Twin X QUAD Heritage Edition ยังมาพร้อมกับ Plug-In ที่มีการจำลองที่แม่นยำมาจากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สุดคลาสสิก ที่นอกเหนือจากชุด Realtime Analog Classics Plus จำนวน 5 ตัว Universal Audio Apollo Twin X QUAD Heritage Edition ถือว่าเป็น Audio Interface ที่จะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีค่า Latency ที่ต่ำมาก ๆ นอกจากนี้ยังสามารถต่อพ่วงกับ Audio Interface ในตระกูล Apollo ได้สูงสุดถึง 4 ตัวเลยทีเดียว
Plug-In ที่แถมมากับ Universal Audio Apollo Twin X QUAD Heritage Edition มีดังต่อไปนี้ :
- UA 1176 Collection
- Teletronix LA‑2A Classic Leveler Collection
- Pultec Passive EQ Collection
- UA 610 Tube Preamp & EQ Collection
- UA Pure Plate Reverb
- MOTU 828es
MOTU 828es อินเตอร์เฟส Thunderbolt ที่มีภาค I/O ถึง 28-in/32-out และจอสี 2 จอ สำหรับการแสดงผลแบบเรียลไทม์ ส่วนประกอบคุณภาพสูง และไดรเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งให้บันทึกเสียงที่ชัดเจน พร้อมค่า Latency ที่ต่ำเพียง 1.6ms เท่านั้น มันสามารถทำการบันเสียงได้พร้อมกันสูงสุดที่ 60 แชนแนล และการ Playback ที่มีความเสถียรด้วยค่า Latency ที่ต่ำมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีหน่วยประมวลผล DSP ออนบอร์ด ที่ทำให้การมิกซ์ได้สูงสุดที่ 48 แชนแนลในรูปแบบของดิจิตอลมิกเซอร์ ซึ่งคุณสามารถควบคุมได้ที่คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป หรือสมาร์ทโฟนของคุณ โดยรวมแล้ว MOTU 828es ถือว่าเป็นอินเตอร์เฟสเกรดพรีเมียมอีกตัวที่เราขอแนะนำว่าเป็นหนึ่งใน Audio Interface ที่ดีที่สุด ในปี 2021 ครับ
(รออัพเดทราคาสินค้า)
- Apogee Symphony I/O MK II
เป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษที่ Apogee ได้มีการวิจัยและพัฒนา Audio Interface ที่จะสามารถเป็นเรือธงให้กับพวกเขา จนออกมาเป็น Apogee Symphony I/O MK II โดยพวกเขากล่าวว่า มันเป็นอินเตอร์เฟสที่มีภาคแปลงสัญญาณ AD/DA ที่ดีที่สุดของ Apogee พร้อมกับค่า Latency ที่ต่ำ รวมทั้งมีความยืดหยุ่น ภาค I/O ที่รองรับสูงสุดที่ 32-in/32-out ใช้งานง่าย และมีหน้าจอแบบสัมผัส Apogee Symphony I/O MK II ถือว่าเป็นอินเตอร์เฟสที่มีความล้ำสมัยอย่างแท้จริง และควรค่าแก่การอยู่ในอันดับต้น ๆ ของ Audio Interface ที่ดีที่สุดในปี 2021 ครับ
- RME Fireface UFX+
RME Fireface UFX+ คือรุ่นที่มีการอัพเกรดมาจากรุ่นก่อนหน้า ที่ได้รับความนิยมด้วย MAD I/O , การบูสต์หน่วยประมวลผล DSP และ Ultra-Low-Latency การเชื่อมต่อแบบ Thunderbolt ให้ซาวด์ที่ฟังดูสะอาด และโปร่งใสอย่างไม่น่าเชื่อ ต้องยกความดีความชอบให้กับภาคแปลงสัญญาณ AD/DA ระดับ Pro Level และวงจร I/O แบบอนาล็อกที่ถูกปรับพัฒนาขึ้น 4 Pre-amp ระดับคุณภาพที่รองรับอินพุตเลเวลสูงสุดที่ +18dBu และอัตราขยายสัญญาณที่ 75dB ซึ่งทำให้การรับมือกับ Source มีความแม่นยำสูง และด้วยพอร์ตเชื่อมต่อ DURec ซึ่งทำให้คุณสามารถทำการบันทึกเสียงได้พร้อมกันสูงสุดที่ 76 แชนแนล หากกำลังมองหา Audio Interface ระดับ High-End สักตัวเพื่อใช้งานในโฮมสตูดิโอ RME Fireface UFX+ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
- Lynx Aurora (n) 32-TB3
เป็นอินเตอร์เฟสที่มาพร้อมกับภาคแปลงสัญญาณ AD/DA อันโด่งดัง และมีประสิทธิภาพของ Lynx ให้ค่า Latency ที่ต่ำเป็นพิเศษ มีคุณสมบัติที่ตรงตามความต้องการของโฮมสตูดิโอทุกประการ ส่วนควบคุมที่แผงด้านหน้า และหน้าจอแบบ TFT LCD ทำให้อินเตอร์เฟสตัวนี้ง่ายต่อการใช้งาน มีเอาท์พุตสำหรับหูฟัง 2 ช่อง สามารถปรับเลเวลความดังของหูฟังแยกกันอิสระ คุณสามารถบันทึกเสียงได้พร้อมกันสูงสุดที่ 32 แชนแนล และมีช่องใส่ microSD card สำหรับการใช้เป็นเครื่องบันทึกเสียงแบบ Standalone อีกด้วย
(รออัพเดทราคาสินค้า)
- PreSonus Quantum 2626
PreSonus Quantum 2626 เป็นอินเตอร์เฟสที่ได้รับการยกย่องโดยนิตยสาร Sound on Sound ว่าเป็น “Thunderbolt Audio Interface ที่เร็วที่สุดในโลก” ภาค I/O ที่มีถึง 26-in/26-out ให้ซาวด์ที่ยอดเยี่ยม คมชัดเป็นพิเศษด้วยภาคแปลงสัญญาณ AD/DA ออนบอร์ด ทำความละเอียดสูงสุดที่ 24-bit/192kHz และช่วง Dynamic Range ที่สูงถึง 120dB ถือว่าเป็นอินเตอร์เฟสที่ยอดเยี่ยมอีกตัวที่มีค่า Latency ต่ำมาก ๆ อีกทั้งยังมาพร้อมกับซอฟท์แวร์ Stellar ชุด Bundle อีกด้วย หากคุณต้องการ Audio Interface ที่มีจำนวน I/O เยอะ ๆ และคุ้มค่า PreSonus Quantum 2626 ก็ถือว่าตอบโจทย์ครับ
- Universal Audio Apollo x8p Heritage Edition
เป็น Audio Interface จากแบรนด์ Universal Audio ที่ขายดีที่สุดของ Sweetwater และยังเป็นอินเตอร์เฟส Generation ล่าสุดที่ทรงพลังอย่างยิ่งเลยก็ว่าได้ Universal Audio Apollo x8p Heritage Edition เป็นอีกรุ่นที่ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม อีกทั้งยังอัดแน่นมาด้วย Plug-In ที่จำลองอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สุดคลาสสิกอันน่าทึ่งมากมาย และ 8 Unison Pre-amp ภาคแปลงสัญญาณ AD/DA ที่ยอดเยี่ยม และเทคโนโลยี Dual Crystal Clocking เพื่อคุณภาพเสียงที่ดี รองรับระบบ Surround 7.1 ได้สูงสุดที่ +24dBu พร้อมทั้งฟังก์ชั่น Talkback และอีกมากมาย ทั้งยังมีค่า Latency ที่ต่ำเพลง 2ms เท่านั้น Universal Audio Apollo x8p Heritage Edition มีภาคประมวลผลที่ทรงพลังจำนวน 6 Core หรือเรียกว่า HEXA Core ทำให้ประมวลผลได้แบบเรียลไทม์ ทั้งในการบันทึกเสียง และการมิกซ์เสียง จึงเป็นเหตุให้ Universal Audio Apollo x8p Heritage Edition อยู่ในลิสต์ Audio Interface ที่ดีที่สุด ในปี 2021 อย่างไม่ต้องสงสัย
Plug-In ที่แถมมากับ Universal Audio Apollo x8p Heritage Edition มีดังต่อไปนี้ :
- UA 1176 Collection
- Teletronix LA-2A Classic Leveler Collection
- Pultec Passive EQ Collection
- Fairchild Tube Limiter Collection
- UA 610 Tube Preamp & EQ Collection
- Teletronix LA-3A Audio Leveler
- Helios Type 69 Preamp and EQ Collection
- V76 Preamplifier
- UA Oxide Tape Recorder
- UA Pure Plate Reverb
- UA 610-B Tube Preamp and EQ
- Marshall Plexi Classic Amplifier
- Fairchild 670 (Legacy)
- Teletronix LA-2A Classic Leveling Amplifier (Legacy)
- 1176SE Classic Limiting Amplifiers (Legacy)
- 1176 LN Classic Limiting Amplifiers (Legacy)
- Pultec Pro Equalizers (Legacy)
- Ampeg SVT-VR Classic Bass Amp
- Precision Mix Rack Collection
- UA Precision Enhancer Hz
- Raw Distortion
- RealVerb Pro
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
USB Audio Interface
- Universal Audio Volt 276
Audio Interface รุ่นใหม่จาก Universal Audio ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้ฮาร์ดแวร์อนาล็อก ที่มาอยู่ในรูปแบบของ USB Audio Interface ที่มีดีทั้งฟังก์ชั่นและความสวยงาม มีภาค I/O จำนวน 2-in/2-out , 2 Pre-amp อนาล็อก ซึ่งเป็นการจำลองเสียงมาจาก 610 Classic Tube และ Volt 276 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น Compressor ที่เป็นการจำลองมาจาก 1176 Compressor คอมเพรสเซอร์อนาล็อกตัวท็อปจาก UA ซึ่งในฟังก์ชั่นคอมเพรสเซอร์มีโหมดการทำงาน 3 โหมดด้วยกัน เพื่อการใช้งานที่เหมาะสม ซึ่งอินเตอร์เฟสในซีรีส์ Volt นั้น ทาง UA ได้มีการออกแบบมาหลายรุ่นเช่นกัน เพื่อให้คุณได้เลือกใช้ตามคุณสมบัติที่คุณต้องการ เช่น Volt 176 ที่มี 1-in/2-out , Volt 276 2-in/2-out และ Volt 476 ที่มี 4-in/4-out หรือหากคุณไม่ได้ต้องการฟังก์ชั่นคอมเพรสเซอร์ ทาง UA ก็ได้มีการออกแบบมาเป็น Volt 1 และ Volt 2 ครับ
- Focusrite Clarett+ 2 Pre
อินเตอร์เฟสจากแบรนด์ Focusrite เป็น USB Audio Interface ที่ได้รับความนิยมที่สุดในหมู่ผู้ทำ Home Studio ทั่วโลกเลยก็ว่าได้ เป็นเพราะการปรับปรุงหลายองค์ประกอบ Clarett+ 2 Pre จึงเป็นอินเตอร์เฟสที่ได้ทำการยกระดับให้กับบริษัท Focusrite จนกลายเป็นตำนานเลยทีเดียว Focusrite Clarett+ 2 Pre มาพร้อมกับ Custom Pre-amp และค่า Latency ที่ต่ำมาก ๆ ภาคแปลงสัญญาณ AD/DA ที่ได้มีการอัพเกรดวงจรใหม่ทั้งหมด ทำให้มีช่วง Dynamic Range ที่กว้างขึ้น และแทบจะไม่มีสัญญาณรบกวน หรือ Noise เลย ทำให้คุณสามารถที่จะได้ยินถึงรายละเอียดของเสียงได้ดีกว่าที่เคย อินเตอร์เฟสในซีรีส์ Clarett+ ทุกตัวมีฟังก์ชั่นโหมด Air อันโด่งดังของ Focusrite และยังมาพร้อมกับอินพุต ADAT ทำให้คุณสามมารถที่จะใช้เพื่อขยาย Pre-amp เพิ่มเติมได้อีก 8 ตัว นอกจากนี้ทาง Focusrite ยังได้มีการออกแบบมาเป็น Clarett+ 4 Pre ที่มี 18-in/8-out และ Clarett+ 8 Pre ที่มี 18-in/20-out อีกด้วยครับ
(Focusrite Clarett+ 2 Pre รออัพเดทราคาสินค้า)
- Solid State Logic SSL2+
หากคุณกำลังมองหาอินเตอร์เฟสที่มีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับในระดับโลกอย่าง SSL อยากให้คุณลองเก็บเจ้า Solid State Logic SSL2+ ไว้เป็นตัวเลือกเผื่อพิจารณาครับ ด้วยคุณสมบัติ 2 Pre-Amp ภาคแปลงสัญญาณระดับคุณภาพ และภาค I/O ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในโฮมสตูดิโอ Solid State Logic SSL2+ ยังมาพร้อมกับโหมด 4K Legacy ซึ่งเป็นการจำลองคุณภาพเสียงจากเครื่องคอนโซลอนาล็อก SSL 4000 เมื่อใช้งานในโหมด 4K Legacy จะเป็นบูสต์ย่านความถี่ ทำให้เกิด Harmonic Distortion เพื่อให้สัญญาณเสียงดัง และคมชัดมากขึ้น แถมการออกแบบดีไซน์ให้มีความทนทานเป็นพิเศษต่อการใช้งานหนัก นานหลายปีทั้งในและนอกสถานที่ เพื่อคุณภาพเสียง และการใช้งานในระดับมืออาชีพ Solid State Logic SSL2+ ก็ถือว่าอินเตอร์เฟสที่คุณไม่ควรพลาดครับ
- Black Lion Audio Revolution 2×2
Black Lion Audio เป็นแบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงด้วย Audio Interface ยอดนิยม ในระหว่างทางและตลอดระยะเวลา ทีมวิศวะกรของ Black Lion Audio ได้เรียนรู้ว่า จะทำอย่างไรเพื่อเป็นการยกระดับ Audio Interface ให้มีความเหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้น ในมาตรฐานที่เข้มงวด และความมุ่งมั่นที่จะให้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด จนในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์เป็น Black Lion Audio Revolution 2×2 อินเตอร์เฟสที่มีภาค I/O 2-in/2-out และมีประสิทธิภาพเกินราคา สิ่งที่คุณจะได้รับจาก Revolution 2×2 นั่นก็คือภาค Pre-amp ที่ยอดเยี่ยม เทคโนโลยี Marco-MMC Clocking ที่ล้ำสมัย และภาคแปลงสัญญาณ AD/DA ที่ให้คุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ ซึ่งจะทำให้คุณเพลิดเพลินกับการทำงานในโฮมสตูดิโอของคุณ
- RME Babyface Pro FS
ด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย และดูสะอาดตา ทำให้ RME Babyface Pro FS เป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับโฮมสตูดิโอที่มีพื้นที่จำกัด Babyface Pro FS เป็นอินเตอร์เฟสที่มีตัวเลือกในการเชื่อมต่อทั้งแบบอนาล็อก , ดิจิตอล และ MIDI เพื่อความสะดวกรวดเร็ว และง่ายต่อการใช้งาน มีวงจร SteadyClock FS ของ RME เพื่อมาตรฐานการ Clocking ระดับโลกด้วยหน่วยวัดที่เป็น Femtosecond กันเลยทีเดียว และมีคุณสมบัติในด้านอื่น ๆ เช่น Pre-amp ที่ควบคุมแบบดิจิตอล และ Metering ดิจิตอลออนบอร์ด ยิ่งไปกว่านั้น Baby Pro FS ยังมาพร้อมกับโปรแกรม TotalMix FX ของ RME หน่วยประมวลผล Dual-DSP ทำให้คุณสามารถมิกซ์ได้ถึง 288 แชนแนลด้วย 3-band EQ , Low-cut Filter , Reverb และ Echo ที่สามารถใช้ได้ในทุกแชนแนล RME Babyface Pro FS ถือว่าเป็นอินเตอร์เฟสที่หน้าตาเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยคุณสมบัติที่ทรงพลังเลยก็ว่าได้
- Focusrite Scarlett 3rd Gen
นักร้องและนักแต่งเพลงจะต้องประทับใจกับทุก Feature ที่มีในตัวอินเตอร์เฟสตระกูล Scarlett 3rd Gen ด้วยภาค Pre-amp ประสิทธิภาพสูงที่มีโหมด Air ซึ่งเป็นการจำลองคาแร็คเตอร์เสียงของ ISA One อนาล็อก Pre-amp สุดคลาสสิกของ Focusrite นอกจากนี้ Scarlett 3rd Gen ยังมีโทนเสียงที่ใส ภาคแปลงสัญญาณ AD/DA ประสิทธิภาพสูง รองรับความละเอียดในการบันทึกเสียงสูงสุดที่ 24-bit/192kHz อินเตอร์เฟสในตระกูล Scarlett 3rd Gen จะมีจำนวนภาค I/O ที่ต่างกันดังนี้ Scarlett 2i2 3rd Gen มี 2-in/2-out , Scarlett 4i4 3rd Gen 4-in/4-out , Scarlett 8i6 3rd Gen 8-in/6-out , Scarlett 18i8 3rd Gen 18-in/8-out และตัวท็อปสุด , Scarlett 18i20 3rd Gen ที่มี 18-in/20-out
- PreSonus AudioBox USB 96 – 25th Anniversary Edition
อินเตอร์เฟสรุ่นฉลองครบรอบ 25 ปี จากแบรนด์ PreSonus ขนาดพกพา ที่มี Feature ภาค I/O จำนวน 2-in/2-out รองรับความละเอียดในการบันทึกสูงสุดที่ 24-bit/96kHz ด้วยอินพุตแบบแจ็คคอมโบมีอัตราขยายถึง 60dB เป็นอินเตอร์เฟสที่เชื่อมต่อด้วย USB 2.0 โดยไม่ต้องต่อไฟเลี้ยงแยก เพียงแต่ไม่มีช่องสำหรับ MIDI in/out เท่านั้นเอง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโปรแกรม Studio One Artist และเพิ่มโบนัส Plug-in Studio Magic อีกด้วย PreSonus AudioBox USB 96 – 25th Anniversary Edition ยังรองรับระบบปฏิบัติการทั้ง MAC และ PC
- Audient iD14 MK II
หากคุณต้องการอินเตอร์เฟสที่มีคุณภาพและให้ประสบการณ์ราวกับว่า เหมือนกำลังใช้เครื่องคอนโซลขนาดใหญ่ ดังนั้น Audient iD14 MK II ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวครับ เครื่องคอนโซลของ Audient นั้นมีภาค Pre-amp ที่ยอดเยี่ยมพอจะทำให้ Source ใด ๆ ที่ได้ทำการบันทึกมีคุณภาพเสียงที่สุดยอด ในขณะเดียวกัน JFET DI ของมันทำให้การบันทึกเสียงกีตาร์ด้วย Plug-in จำลองแอมป์ออกมามีโทนเสียงที่ยอดเยี่ยม iD14 MK II ในเวอร์ชั้นปัจจุบันได้มีการปรับดีไซน์ใหม่ ทำให้เร็วขึ้นด้วยการใช้การเชื่อมต่อแบบ USB Type C 3.0 แอมป์หูฟังคุณภาพระดับสตูดิโอจำนวน 2 ตัว และแถมซอฟท์แวร์ฟรีอีกด้วย นอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยีของภาคแปลงสัญญาณ AD/DA ที่ถูกพัฒนาขึ้น ทำให้ iD14 MK II มีคุณภาพ และตัดเรื่องของสัญญาณรบกวนได้ดียิ่งขึ้น
- Apogee Duet 3
อินเตอร์เฟสอีกหนึ่งรุ่นที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน มาพร้อมกับภาคแปลงสัญญาณ AD/DA คุณภาพระดับสตูดิโอ และภาค Pre-amp ที่ยอดเยี่ยมด้วยอัตราการขยายถึง +65dB ซึ่งที่ปรีแอมป์แต่ละตัวก็จะมีระบบ Advanced Stepped Gain Architecture ของ Apogee ที่จะช่วยให้สัญญาณเสียงมี Bandwidth ที่ดีขึ้น และป้องกันการเกิด Distortion ของเสียงอีกด้วย Duet 3 ยังมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล DSP ที่ทรงพลัง ซึ่งทาง Apogee เองได้กล่าวเอาไว้ว่า ทรงพลังจนแทบจะปราศจากค่า Latency เลยก็ว่าได้ เท่านั้นยังไม่พอ คุณยังจะได้ Plug-in ECS Channel Strip ของ Apogee ที่ประกอบไปด้วย EQ , Compressor และ Saturation อีกด้วย ทำให้ Apogee Duet 3 เป็นหนึ่งใน Audio Interface ที่ดีที่สุด ในปี 2021 ครับ
- IK Multimedia AXE I/O
IK Multimedia AX I/O เป็นอินเตอร์เฟสประเภท USB ที่ยอดเยี่ยมอีกตัวหนึ่ง ที่ออกแบบมาสำหรับมือกีตาร์โดยเฉพาะ ที่อินพุตมีปุ่มปรับ Z-Tone สำหรับการปรับค่า Impedance ให้เหมาะสมในการใช้งานกับเครื่องดนตรี อีกทั้งยังมีสวิตช์ที่ใช้สำหรับเลือกการทำงานระหว่าง Active และ Passive Pickup ทำให้ AXE I/O เป็นอินเตอร์เฟสที่ยอดเยี่ยมสำหรับมือกีตาร์ และยังมาพร้อมกับซอฟท์แวร์ Amplitube 4 Deluxe ที่จำลองทั้งแอมป์ และเอฟเฟคกีตาร์ / เบส ได้อย่างเที่ยงตรงที่สุด รองรับความละเอียดในการบันทึกสูงสุดที่ 24-bit/192kHz ทั้งยังมี Tuner ในตัว รวมถึงเอาท์พุตสำหรับการบันทึกแบบ Re-amp โดยเฉพาะ และแอมป์หูฟังคุณภาพระดับมืออาชีพ คุณสมบัติโดยรวมแล้ว ทำให้ IK Multimedia AXE I/O เป็นอินเตอร์เฟสอีกตัวที่น่าสนใจครับ
- MOTU M4
หากคุณไม่ได้ต้องการภาค I/O จำนวนเยอะ ๆ และมีพื้นที่จำกัดในการใช้งาน MOTU M4 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจครับ ด้วย Feature ภาคแปลงสัญญาณอันยอดเยี่ยม ESS Sabre32 Ultra D/A และค่า Latency ที่ต่ำเป็นพิเศษให้ประสิทธิภาพการทำงานที่น่าทึ่ง เป็นอินเตอร์เฟสที่เชื่อมต่อด้วย USB Type C ภาค I/O จำนวน 4-in/4-out ภาค Pre-amp คุณภาพระดับมืออาชีพ อีกทั้งยังมีหน้าจอ LCD Meter ที่แสดงผลค่าความดังของสัญญาณอินพุต ทำให้ง่ายต่อการใช้งานอย่างมาก MOTU M4 ถือว่าเป็นอินเตอร์เฟสที่เหมาะสำหรับการใช้งานในด้าน Podcast เป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยตัวอินเตอร์เฟสได้มีการใส่ฟังก์ชั่น Loopback เข้ามาด้วย และยังมีปุ่ม Mix สำหรับปรับบาลานซ์ความดังระหว่างอินพุต และคอมพิวเตอร์ของคุณได้อย่างอิสระอีกด้วย
บทความโดย : ณัฐพจน์ วิจารัตน์
บทความอ้างอิง : 2021 Best Audio Interfaces for Your Home Studio By Sweetwater