แจ็ค 3.5 mm. มีแบบไหนบ้าง แล้วเราจะเลือกใช้แบบไหนดี?

ใครเคยสับสนกับแจ็ค 3.5 mm. บ้าง ปัจจุบันมีหัวแจ๊คขนาด 3.5 mm มากมาย ไม่ว่าจะเป็น TS, TRS และ TRRS แต่จะใช้สายไหนกับอุปกรณ์ของเราดี นอกจากจะดูที่ขนาดหัวแจ็คแล้ว เรายังต้องดูที่ขั้วสัญญาณ หรือ Pole ด้วย ซึ่งในที่นี้จะมีตัวอักษรย่อเกี่ยวข้องทั้งหมด 3 ตัว ก็คือ

T ย่อมาจาก Tip
R ย่อมาจาก Ring
S ย่อมาจาก Sleeve

อักษร 3 ตัวนี้แหละที่จะทำให้เรารู้ว่า ควรใช้สายแจ็คแบบไหนกับอุปกรณ์ใดบ้างจำง่ายๆว่ามีขั้วกี่แถบ จะมีลักษณะแบบไหนไปดูกันครับ

TS ย่อมาจาก Tip Sleeve

เป็นขั้วสัญญาณแบบ Unbalanced ให้เสียงแบบ MONO เหมาะสำหรับเป็นไมโครโฟน สำหรับตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) ของไมค์ไร้สาย ทั้งนี้ไม่นิยมใช้กับสายสัญญาณที่มีความยาวมากนัก เพราะสัญญาณแบบ Unbalanced จะทำให้มีเสียงรบกวนค่อนข้างเยอะ

TRS ย่อมาจาก Tip Ring Sleeve

เป็นขั้วสัญญาณแบบ Balanced ให้เสียงได้ทั้ง MONO และ STEREO แล้วแต่รูปแบบการใช้งาน เหมาะสำหรับเป็นไมโครโฟนที่ใช้กับกล้อง DSLR หรือกล้องถ่ายวีดีโออื่นๆ หรือใช้สำหรับหูฟัง ให้เสียงแบบ STEREO เพราะมีการแยกเสียงซ้ายและขวา

หากใช้เป็นไมโครโฟน ส่วน Tip และ Ring จะเป็นขั้วสัญญาณไมค์ให้เสียงแยกซ้ายและขวา
หากใช้เป็นหูฟัง ส่วน Tip และ Ring จะเป็นขั้วสัญญาณสำหรับหูฟังแยกซ้ายและขวา

TRRS ย่อมาจาก Tip Ring Ring Sleeve

เป็นขั้วสัญญาณแบบ Balanced ที่ให้เสียงแบบ STEREO โดยมีขั้วสัญญาณสำหรับไมค์เพิ่มขึ้นมา สำหรับใช้กับมือถือหรือสมาร์ทโฟน เนื่องจากเป็นทั้งหูฟังและไมโครโฟนได้ในเส้นเดียวกัน ทั้งยังให้เสียงแบบ STEREO เพราะมีการแยกเสียงซ้ายและขวา แต่ TRRS ยังแบ่งรุปแบบออกเป็น CTIA และ OMTP อีก ขึ้นอยู่กับการบัดกรีขั้วสัญญาณ

สรุป

ในปัจจุบันเราอาจจะเคยเห็นแจ็ค 3.5 mm. ในแบบ TRS และ TRRS เพราะส่วนมากจะใช้กับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนทั่วไปและจะเห็นตามสายสัญาณเปิดเพลง อาจจะไม่คุ้นแบบ TS เพราะมักใช้กับไมค์โครโฟน แต่ก็ยังมีคำถามมาอยู่ว่าอะไรคือแจ็คแบบ MONO หรือ STEREO ดูง่ายๆเลยคือ ดูที่ขีดสีดำเลยครับ หนึ่งขีดคือ MONO ถ้าสองขีดและสามขีดก็จะเป็น STEREO เท่านี้ก็เป็นการทำความเข้าใจง่ายๆและนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องแล้วครับ

เขียนบทความโดย ณัฐวัฒน์ ภู่บุญ