5 Closed-Back Headphone 2022
Headphone แบบปิด (Closed-Back) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้งานด้านการผลิตเพลง โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีลักษณะครอบใบหูทั้งใบอย่างสนิท ป้องกันไม่ให้เสียงที่ไม่ต้องการเล็ดลอดเข้าหรือออก บุด้านในเพื่อความสบายของใบหูในการสวมใส่ และคุณสมบัตินี้จะเป็นประโยชน์มากสำหรับการทำงานในสตูดิโอบันทึกเสียง หูฟังแบบปิดสามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ นั่นหมายความว่า คุณสามารถที่จะโฟกัสกับสิ่งที่คุณกำลังฟังได้ดีขึ้น และได้ยินถึงรายละเอียดของเสียงได้อย่างชัดเจน
การออกแบบ หูฟัง Headphone แบบเปิด (Opened) จะมีลักษณะการครอบหูที่มีขนาดเล็กกว่า เหมือนกับว่าวางอยู่บนใบหูเท่านั้น หูฟังแบบปิดจึงให้การตอบสนองเสียงเบสได้ดีกว่า เพียงแต่มีข้อเสียก็คือ เมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน อาจจะทำให้เกิดอาการล้าที่ใบหูได้ และมีการระบายอากาศ ความร้อน ความชื้นได้เพียงเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้น.. ในสตูดิโอบันทึกเสียงมักจะมีหูฟังหลายประเภทสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่หูฟังแบบปิดก็มีความสำคัญ และจำเป็นเป็นอันดับแรก ๆ สำหรับการทำงานในสตูดิโอบันทึกเสียง บทความนี้เราจะมาดูกันครับว่า 5 หูฟัง Closed-Back Headphone ราคาสบายกระเป๋ารุ่นไหนบ้าง ที่ได้รับความนิยมที่สุดในปี 2022
1. Audio Technica ATH-M50x
หากว่าคุณได้พอรู้ข่าวสาร เกี่ยวกับแวดวงหูฟังสตูดิโออยู่บ้าง คุณจะพบว่า Audio Technica ATH-M50x จะอยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการ หูฟัง แบบ Closed-Back ที่ขายดีที่สุด นับตั้งแต่มีการเปิดตัวหูฟังรุ่นนี้ออกมา ด้วยดีไซน์ที่โมเดิร์น ทันสมัย และยังสามารถพับเก็บได้อีกด้วย Audio Technica ATH-M50x สามารถถอดเปลี่ยนสายหูฟังได้ โดยรุ่นนี้ได้แถมมาให้ภายในกล่องถึง 3 เส้น ได้แก่ สายสั้น 1.2 เมตร , สายยาว 3 เมตร และสายม้วน 3 เมตร ซึ่งคุณสามารถเลือกใช้สายได้ตามสถานการณ์ ในแง่ของคุณภาพเสียง ถือว่าทำออกมาได้ดีเยี่ยม เมื่อเทียบกับหูฟังในเกรดราคา 5,XXX บาท สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยได้ลองหูฟังสตูดิโอมาก่อนเลย อยากให้คุณได้มาลองฟังเสียงของ Audio Technica ATH-M50x มันจะเป็น หูฟัง แบบ Closed-Back ที่มอบประสบการณ์ฟังที่คุ้มค่าให้คุณอย่างแน่นอนครับ แถมรุ่นนี้ยังมีการออกแบบสี Limited และรุ่นที่มีบลูทูธอีกด้วย (ATH-M50xBT)
- สเปค
- Price : 5,990 THB
- Frequency Response : 15Hz – 28kHz
- Impedance : 38 Ω
- Driver type : Large Aperture W / Rare Earth Magnets , 45mm
- Connection : Wired , Interchangeable
- Cable lengths : 1.2m , 3m (straight) , 1.2m – 3m (coiled)
- Weight : 285g
2. Beyerdynamic DT770 PRO
DT770 Pro หูฟัง แบบ Closed-Back อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Beyerdynamic โดยรุ่นเดียวมีให้เลือกถึง 3 แบบด้วยกัน ซึ่งจะแตกต่างกันที่ค่าความต้านทาน (Impedance) ได้แก่ 32 , 80 และ 250 Ω แต่ดูเหมือนว่า แบบ 80 Ω จะได้รับความนิยมที่สุดใน 3 แบบนี้ เนื่องจากมีความสมดุลที่ดีในทุกช่วงความถี่ที่ได้ยิน ย่านความถี่สูงที่คมชัดรายละเอียดสูง และย่านความถี่ต่ำที่มีน้ำหนักที่พอดี ด้วยที่ครอบหูที่เป็นกำมะหยี่ทำให้สวมใส่สบาย แม้จะเป็นเวลานาน ๆ ก็ตาม และไม่ต้องกังวลหากว่ามีการใช้งานหนัก เพราะ Beyerdynamic DT770 Pro เป็น หูฟัง ที่ถูกออกแบบมาให้รองรับต่อการใช้งานของผู้ใช้ และมีอายุการใช้งานที่นานพอสมควร อีกทั้งส่วนประกอบทุกชิ้นสามารถถอดเปลี่ยนอะไหล่ได้
- สเปค
- Price : 7,490 THB
- Frequency Response : 5Hz – 35kHz
- Impedance : 32 / 80 / 250 Ω
- Driver type : Dynamic
- Connection : Wired , Fixed
- Cable length : 32 Ω – 1.6m (straight) , 80 Ω – 3m (straight) , 250 Ω – 3m (coiled)
- Weight : 270g
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
3. Sennheiser HD280 PRO
ในบรรดา Headphone ทุกรุ่นของ Sennheiser ที่มีราคาไม่แรงมาก แต่ได้ในเรื่องของคุณภาพ ความทนทาน และเสียงที่สมดุลเที่ยงตรง ต้องยกให้กับ HD280 PRO ครับ ด้วยการออกแบบดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ดูเท่ สวมใส่สบาย อีกทั้งยังสามารถพับเก็บได้อีกด้วย ซึ่งก็จะทำให้มีความสะดวกสบายในการพกพา บวกกับที่ครอบหูแบบหนา ช่วยทำให้ลดเสียงเล็ดลอดเข้าหรือออกหูฟังได้เป็นอย่างดี และด้วยความทนทานของหูฟังรุ่นนี้ คุณจึงไม่ต้องกังวลเลยว่าจะเกิดปัญหาตามมาจากการใช้งานหนัก ๆ แต่อย่างไรก็ตามส่วนประกอบของ HD280 PRO ก็ยังสามารถถอดเปลี่ยนอะไหล่ได้ทุกชิ้น
- สเปค
- Price : 5,490 THB
- Frequency Response : 8Hz – 25kHz
- Impedance : 64 Ω
- Driver type : Dynamic , Closed
- Connection : Wired , Fixed
- Cable length : 1.3m – 3m (coiled)
- Weight : 285g
4. Sony MDR-7506
หูฟัง MDR-series ของ Sony มีมาตั้งแต่ปี 1990 ด้วยเหตุนี้เอง… จึงทำให้เป็นหูฟังที่อยู่คู่กับสตูดิโอบันทึกเสียงทั่วโลก มาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ MDR-7506 เป็นหูฟังแบบ Closed-Back ที่ได้รับการออกแบบที่ผสมผสานให้มีความวินเทจ ตามสไตล์หูฟังยุค 90’s ที่ครอบหูให้การสวมใส่ที่สบายเป็นพิเศษ แม้จะเป็นเวลานานก็ตาม และให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมเกินราคา ผู้ใช้สามารถได้ยินถึงรายละเอียดของเสียงได้อย่างชัดเจน ตอบโจทย์การใช้งานจริงอย่างคุ้มค่า ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จึงทำให้ MDR-7506 หูฟังสตูดิโอใน MDR-series ของ Sony ได้รับการยอมรับจากสตูดิโอบันทึกเสียงทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้
- สเปค
- Price : 4,900 THB
- Frequency Response : 10Hz – 20kHz
- Impedance : 63 Ω
- Driver type : Dynamic , Closed Neodymium , 40mm
- Connection : Wired , Fixed
- Cable length: 3m (coiled)
- Weight : 230g
5. AKG K371-BT
AKG K371 เป็นหนึ่งใน หูฟัง แบบ Closed-Back ที่ดีที่สุดสำหรับการบันทึกเสียงในสตูดิโอ ได้รับการออกแบบที่มีคุณภาพการสร้าง เพื่อให้ประสิทธิภาพเสียงที่ดีเยี่ยมแก่ผู้ใช้ และในปัจจุบันรุ่นนี้ก็ยังมีแบบที่เป็นบลูทูธ เพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น ก็คือ K371-BT นั่นเอง ด้วยดีไซน์ที่มีความเพรียวบาง ทันสมัย สวมใส่สบาย อีกทั้งยังมาพร้อมกับ Built-in ไมโครโฟนมาให้ในตัวอีกด้วย !! แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 40 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น AKG K371-BT ยังมีการตอบสนองความถี่ที่กว้างมาก ๆ ตั้งแต่ 5Hz จนถึง 40kHz เลยทีเดียว ซึ่งให้เสียงย่านความถี่ต่ำที่เชื่อถือได้ ให้เสียงย่านกลางที่ชัดเจน และรายละเอียดเสียงย่านความถี่สูงที่คมชัดอีกด้วย
- สเปค
-
- Price : 8,490 THB
- Frequency Response : 5Hz – 40kHz
- Impedance : 32 Ω
- Driver type : Titanium-Coated , 50mm
- Connection : Wireless (Bluetooth 5.0) , Wired , detachable
- Cable length : 3m (coiled) , 1.2m , 3m (straight)
- Weight : 300g
สรุป
หูฟัง Headphone แบบ Closed-Back หรือแบบปิด สำหรับมอนิเตอร์ในสตูดิโอบันทึกเสียง มีวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อให้คุณภาพ และรายละเอียดของเสียงที่เป็นกลาง ช่วยให้คุณสามารถมิกซ์เสียงได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถที่จะโฟกัสไปที่รายละเอียดของเสียง ปรับบาลานซ์เสียง และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในการมิกซ์ได้ง่ายขึ้น หากคุณกำลังมองหาหูฟัง ในราคาที่ไม่แรงมากนัก แต่ได้ในเรื่องของมาตรฐานระดับมืออาชีพ ทุกรุ่นที่กล่าวมาในบทความนี้ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
ติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook AT Prosound
บทความโดย : ณัฐพจน์ วิจารัตน์