ลำโพงใบไหน ดังกว่ากัน
AT ออนไลน์ไกด์, ทฤษฎีเสียง
ความดังของลำโพง
ลำโพงวัตต์สูง ดังกว่าลำโพงวัตต์ต่ำจริงหรือ อีกหนึ่งคำถามเกี่ยวกับเรื่อง ความดัง
หลายท่านเกิดคำถามในใจระหว่างการตัดสินใจเลือกตู้ลำโพงสักใบว่าตู้ไหนให้เสียงที่ดังกว่า บทความนี้อาจช่วยท่านในการตัดสินใจได้
โดยทั่วไปแล้วลำโพงที่ผลิตมานอกจากกำลังวัตต์ที่ผู้ผลิตแจ้งไปแล้วยังมีค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ทางเทคนิคของลำโพงนั้น ๆ ด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นค่าการตอบสนองความถี่ของลำโพงนั้น ๆ ค่า Sensitivity ขนาดของกรวย ขนาดของวอยซ์คอยล์และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งค่าที่กว่าวมาล้วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของ ความดัง ทั้งสิ้น ที่เป็นข้อมูลสำคัญในการออกแบบตู้ลำโพง แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจในการตัดสินใจซื้อตู้ลำโพงคือเรื่องของความดังครับ
จริง ๆ แล้วความดังของลำโพงประกอบด้วย 2 องค์ประกอบหลัก ๆ คือ กำลังวัตต์ของลำโพงและค่า sensitivity ทั้ง 2 ค่านี้เป็นปัจจัยหลักในการคำนวณว่าลำโพงตัวไหนมีความดังมากกว่ากัน หรือให้ dB มากกว่ากันโดยการคำนวณหาค่าความดังนั้นสามารถหาได้จากสูตร
“10 Log P + Sensitivity”
โดย P คือ กำลังของลำโพงหรือดอกลำโพงนั้น ๆ
Sensitivity คือ ค่าความไวของดอกลำโพง ซึ่งที่คู่มือของลำโพงหรือของตู้ลำโพงต้องมีบอกค่านี้เสมอ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- ครบเครื่อง เรื่องลำโพง PA
- การแขวนลำโพงไลน์อาเรย์ รูปแบบต่าง ๆ
- 5 อุปกรณ์ พื้นฐานระบบเสียง สำหรับมือใหม่
ยกตัวอย่าง ตู้ลำโพง Active 2 ใบในราคาที่เท่ากัน
จากรูปจะเห็นได้ว่า ตู้ลำโพงใบที่ 1 มีกำลังวัตต์ที่ 500วัตต์ RMS มีค่า Sensitivity อยู่ที่ 98dB
ตู้ลำโพงใบที่ 2 มีกำลังวัตต์ที่ 800 วัตต์ RMS มีค่า Sensitivity อยู่ที่ 96dB
หากเรามองแบบผิวเผินจะเห็นว่าลำโพงใบที่ 2 มีกำลังวัตต์มากกว่าใบที่ 1 ฉะนั้นใบที่ 2 ต้องดังกว่า แต่จริง ๆ แล้วทั้ง 2 ใบมีความดังแทบจะเท่ากัน หากลองคำนวณจากสูตรจะได้ว่า
ลำโพงใบที่ 1 = 10 Log (500) + 98 = 124.99 หรือประมาณ 125 dB
ลำโพงใบที่ 2 = 10 Log (800) + 96 = 125.03 หรือประมาณ 125 dB
นั่นหมายความว่าการพิจารณาดูเรื่องของความดังในตู้ลำโพงหรือดอกลำโพงนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่ากำลังวัตต์เพียงอย่างเดียวครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านครับ
#ATprosound #ส่งต่อคุณภาพเสียง_ส่งต่อความสุข