สิ่งที่ควรรู้ !! เกี่ยวกับ “ไมค์กลอง” (Drum Mics)
AT ออนไลน์ไกด์, ดนตรี
ไมค์กลอง (Drum Mics) กับสิ่งที่คุณควรรู้ !!
ไมค์กลอง (Drum Mics) | การใช้ไมค์จับกลอง และการบันทึกเสียงสำหรับกลองชุด เป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิธีการเซ็ทอัพ หรือวิธีการเลือกไมค์ที่เหมาะสมสำหรับใช้กับกลองชุด ซึ่งก็จะมี ไมค์กลองชุด หลากหลายยี่ห้อหลากหลายรุ่น ที่ได้การยอมรับความไว้วางใจ และทดสอบแล้วโดย Sound Engineer มาตลอดหลายปี พร้อมด้วยเทคนิคในการเซ็ทอัพ เพื่อให้ได้เสียงที่ดีที่สุดในการใช้ไมค์จับกลอง และการบันทึกเสียงกลอง บทความนี้.. เราจะมาดูกันครับว่า มีเรื่องใดบ้างที่เราควรรู้เกี่ยวกับ “ไมค์กลอง” หรือ “ไมค์กลองชุด” เพื่อเป็นประโยชน์ และเป็นแนวทางแก่ทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยครับ
สารบัญ
ทำความรู้จักกับ “ไมค์กลอง”
โดยทั่วไปที่เรามักจะพบเห็นไมโครโฟนที่ถูกนำมาใช้สำหรับกลอง นั่นก็คือ ไมค์ประเภท Dynamic และ Condenser ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการจับเสียงของเครื่องดนตรีโดยเฉพาะ ซึ่งไมโครโฟนที่ใช้สำหรับเครื่องดนตรี จะมีความแตกต่างจากไมโครโฟนสำหรับร้องเพลงตรงที่ ไมโครโฟนสำหรับเครื่องดนตรีจะมีค่า Max SPL ที่สูงกว่า และขนาดของไดอะแฟรมที่อาจจะเล็กกว่า หรือใหญ่กว่า เมื่อเทียบกับไมโครโฟนร้องเพลงในซีรีส์เดียวกัน (ขึ้นอยู่กับหน้าที่ของไมค์รุ่นนั้น ๆ)
ยกตัวอย่าง เช่น Shure SM58 (ไมค์ร้อง) กับ Shure SM57 (ไมค์เครื่องดนตรี) เป็นต้น โดยคุณสมบัติของไมค์ไดนามิก นั่นก็คือ ความทนทานต่อแรงดันเสียง และการตกกระแทก หรือถูกกระทบด้วยไม้กลอง จึงมักถูกนำไปใช้กับ Kick , Snare และ Toms ในส่วนคุณสมบัติของไมค์คอนเดนเซอร์ นั่นก็คือ ความแม่นยำ ความสามารถในการตอบสนองต่อเสียง และตอบสนองช่วงความถี่ได้กว้าง จึงมักถูกนำไปใช้กับ Overhead และ Hi-Hat ด้วยความที่ไมค์คอนเดนเซอร์มีการตอบสนองที่ไวมาก ไมค์คอนเดนเซอร์ที่ใช้ จึงเป็นไมค์คอนเดนเซอร์ที่มีไดอะแฟรมขนาดเล็กครับ เพื่อความแม่นยำ และรับมือกับแรงดันเสียงที่สูงนั่นเอง
สิ่งที่ควรรู้ !! เกี่ยวกับ “ไมค์กลอง” (Drum Mics)
(ขอบคุณรูปภาพจาก behringer.com)
ไมค์กลองขายดี
ไมค์กลอง 1 ชุด ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
ไมค์กลอง 1 ชุด โดยทั่วไปแล้ว.. จะประกอบไปด้วยไมโครโฟนต่าง ๆ ดังนี้ครับ :
- ไมค์จับ Kick
กระเดื่อง หรือ Kick Drum จะสร้างระดับแรงดันเสียง (SPL) ที่ความถี่ต่ำได้สูงมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ไมโครโฟนที่สามารถรับมือกับสิ่งนี้ได้ นั่นก็คือ ไมค์ไดนามิกที่มีไดอะแฟรมขนาดใหญ่ วัตถุประสงค์เพื่อการใช้งานกับกระเดื่องโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถจัดการกับ Transients ที่สูง และสามารถตอบสนองความถี่ต่ำได้ลึก
ยกตัวอย่าง เช่น AKG D112 , Sennheiser e602 หรือ e902 และ Shure Beta 52A เป็นต้น ซึ่งนอกจากนี้… ยังมีไมค์จับกระเดื่องอีกหนึ่งประเภท ที่เรียกว่า “ไมค์ Boundary” หรือ “ไมค์ PZM” เป็นไมค์คอนเดนเซอร์ที่มีไดอะแฟรมขนาดใหญ่ ยกตัวอย่าง เช่น Shure Beta 91A เป็นต้น
สิ่งที่ควรรู้ !! เกี่ยวกับ “ไมค์กลอง” (Drum Mics)
(ขอบคุณรูปภาพจาก sweetwater.com)
- ไมค์จับ Overhead
สำหรับ Overhead จะใช้วิธีการวางไมค์ไว้เหนือกลอง โดยใช้จำนวน 1 หรือ 2 ตัว หากเป็นต้องการบันทึกเสียงเป็นระบบ Stereo คุณสมบัติของไมค์ Overhead ต้องสามารถที่จะตอบสนองช่วงความถี่ได้กว้าง ดังนั้นแล้ว… เราจึงมักเห็นไมค์คอนเดนเซอร์ถูกใช้เป็นไมค์สำหรับ Overhead โดยเฉพาะประเภทที่มีไดอะแฟรมขนาดเล็ก ยกตัวอย่าง เช่น AKG C451 B และ Rode NT5 เป็นต้น
สิ่งที่ควรรู้ !! เกี่ยวกับ “ไมค์กลอง” (Drum Mics)
(ขอบคุณรูปภาพจาก audiofanzine.com)
- ไมค์จับ Snare
การใช้ไมค์จับสแนร์จะมี 2 องค์ประกอบหลัก ๆ นั่นก็คือ จับที่หนังบนของสแนร์ 1 ตัว และจับที่ใต้หนังล่างสแนร์ 1 ตัว ทำให้ได้โทนเสียงที่มีลักษณะเฉพาะ อีกทั้งยังสามารถมิกซ์บาลานซ์ระหว่างไมค์บน และไมค์ล่างเพื่อให้ได้โทนเสียงที่กว้าง และมี Resonant (ความกังวาน) มากขึ้น อย่างไรก็ตาม… การใช้ไมค์จับสแนร์ 2 ตัว ที่หันหัวไมค์เข้าหากันในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อหนังบนสแนร์ถูกกระทบด้วยไม้กลอง แรงสั่นสะเทือนของหนังบนจะใช้เวลาในการเดินทางไปยังหนังล่าง ซึ่งแปลว่า เสียงเกิดขึ้นไม่พร้อมกันครับ
ตามทฤษฎีแล้วการกลับ Phase ไมค์ตัวล่างก็จะช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้ได้ แต่ก็จะมีผลต่อโทนเสียงด้วย แต่ในชีวิตจริงแล้วก็ขึ้นอยู่กับหู และดุลยพินิจของ Sound Engineer แต่ละท่าน ว่าชอบเสียงแบบไหน ระหว่างกลับ Phase และไม่กลับ Phase ดังนั้นแล้วการกลับ Phase จึงเป็นเพียงทางเลือกเท่านั้นครับ และไมค์จับสแนร์ยอดนิยม ยกตัวอย่าง เช่น Shure SM57 , Audix F5 และ Sennheiser MD421 เป็นต้น
สิ่งที่ควรรู้ !! เกี่ยวกับ “ไมค์กลอง” (Drum Mics)
(ขอบคุณรูปภาพจาก sweetwater.com)
- ไมค์จับ Hi-Hat
ในทางปฏิบัติการจับ Hi-Hat จะมีหลักการค่อนข้างใกล้เคียงกับการจับ Overhead ครับ โดยบางครั้งการใช้ไมค์จับ Hi-Hat ก็ไม่จำเป็นเลย หากมีการวางไมค์จับ Overhead ในตำแหน่งที่เหมาะสม แต่การมีไมค์สำหรับการจับ Hi-Hat แยกต่างหาก ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการมิกซ์เสียงครับ โดยปกติแล้ว.. คุณสมบัติของไมค์จับ Hi-Hat ต้องสามารถตอบสนองความถี่ได้กว้าง โดยเฉพาะในช่วงความถี่สูง และมีความแม่นยำเช่นเดียวกับไมค์จับ Overhead ครับ ซึ่งนั่นก็คือ ไมค์ประเภทคอนเดนเซอร์ ที่มีไดอะแฟรมขนาดเล็ก ประเภทเดียวกันกับไมค์จับ Overhead นั่นเองครับ ยกตัวอย่าง เช่น AKG C451 B , Rode M5 และ Sennheiser e914 เป็นต้น
สิ่งที่ควรรู้ !! เกี่ยวกับ “ไมค์กลอง” (Drum Mics)
(ขอบคุณรูปภาพจาก dpamicrophones.com)
- ไมค์จับ Toms
ไมค์จับ Toms จะเป็นการใช้ไมโครโฟน 1 ตัวต่อทอม 1 ใบครับ โดยคุณสมบัติของไมค์จับ Toms นั้นจะต้องเป็นไมโครโฟนที่ทนต่อแรงดันเสียงได้ดี เช่นเดียวกับไมค์จับสแนร์ เพียงแต่การจับ Toms นั้น ไม่จำเป็นต้องจับที่หนังล่าง จับแค่หนังบนโดยการเอียงอไมค์ 45 องศาเข้าหาหนังกลองก็เพียงพอแล้ว ซึ่งไมค์จับ Toms ยอดนิยม ยกตัวอย่าง เช่น Shure SM57 และ Sennheiser MD421 เป็นต้น
สิ่งที่ควรรู้ !! เกี่ยวกับ “ไมค์กลอง” (Drum Mics)
(ขอบคุณรูปภาพจาก electronicdrumadvisor.com)
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- รีวิว !! ไมค์กระเดื่อง SHURE BETA 91A และ SHURE BETA 52A
- ไมค์จ่อตู้แอมป์กีตาร์ !! 4 รุ่นยอดฮิตตลอดกาล
- หลักการทำงานของไมโครโฟน
เตรียมความพร้อมให้กลอง
การใช้ไมค์จับกลอง และก่อนทำการบันทึกเสียงกลอง อันดับแรกที่ควรทำก็คือ การเตรียมความพร้อมให้กลองชุดนั่นเอง กลองชุดหรืออุปกรณ์ใด ๆ ที่มีการดูแลรักษาที่ไม่ดี คุณภาพที่ได้ก็จะออกมาเช่นนั้น ไม่ว่าคุณจะมีทักษะการบันทึกเสียงที่ดีเยี่ยมเพียงใดก็ตาม ก่อนการวางไมค์ และเริ่มการบันทึกเสียงทุกครั้ง สิ่งที่ควรพิจารณาหลัก ๆ ก็คือ สภาพหนังกลองมีความพร้อมหรือไม่ ? ตึงหรือหย่อนเกินไปหรือไม่ ?
ไม่ว่าจะทั้ง Kick , Snare หรือ Toms หากเป็นหนังกลองที่เก่า ขาดการดูแลมาเป็นระยะเวลานาน ๆ การเปลี่ยนหนังกลอง และจูนเสียงใหม่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำครับ อย่างที่ผมได้กล่าวไป.. ไม่ว่าคุณจะมีทักษะการบันทึกเสียงที่ดีเยี่ยมอยู่แล้ว มีเทคนิคการวางตำแหน่งไมค์กลองที่ถูกต้องเหมาะสม แต่ถ้าหากคุณได้ Source ของเสียงที่ดีมาตั้งแต่ต้นทางด้วยเช่นกัน มันก็จะส่งเสริมคุณภาพให้ดีเยี่ยมขึ้นไปอีก
สิ่งที่ควรรู้ !! เกี่ยวกับ “ไมค์กลอง” (Drum Mics)
(ขอบคุณรูปภาพจาก unsplash.com)
กลองชุดมาตรฐาน “แบบ 5 ชิ้น” มักจะประกอบไปด้วย Kick , Snare , Toms 3 ใบ บวกกับเครื่องทองเหลืองต่าง ๆ เช่น Hi-Hat , Ride และ Crash cymbals ที่บ้านเราเรียกว่า “ฉาบ” หรือ “แฉ” ซึ่งไม่ว่าจะกลอง หรือแฉแต่ละใบ ต่างก็มีความแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งในเรื่องของเสียง และหน้าที่การทำงาน ด้วยเหตุนี้เอง.. จึงจำเป็นต้องใช้ไมโครโฟนที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละส่วนของกลองชุด
ปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งประการสำหรับการใช้ไมค์กลองชุด นั่นก็คือ “Mount” (ขาจับไมค์) เนื่องจากการวางตำแหน่งไมโครโฟนที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งในแง่ของเสียง และประสิทธิภาพ ด้วยธรรมชาติของกลองนั้น มักจะมีแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นเสมอ การใช้ขาจับไมค์ที่ไม่มีความแข็งแรงคงทนนั้น อาจจะทำให้ตำแหน่งการวางไมค์เกิดความคลาดเคลื่อนได้ และคุณภาพของเสียงที่ได้ก็จะไม่ดีเท่าที่ควรครับ
กลับสู่สารบัญ
สรุป
มีหลายปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจในการเลือกไมค์กลอง โดยสิ่งสำคัญอันดับแรก ๆ ในการออกแบบไมค์กลองชุด หรือเครื่องเพอร์คัสชั่น ก็คือ ความทนทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแสดงสด เนื่องจากต้องผ่านการใช้งานอย่างหนักหน่วง โดยผ่านมือคนมากหน้าหลายตา บางครั้งอาจเกิดการตกกระแทก อีกทั้งยังต้องเผชิญกับสภาพอากาศ ดังนั้นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญกับไมค์กลอง นอกจากเรื่องโทนเสียงที่ชอบแล้ว นั่นก็คือความทนทานต่อการใช้งาน การเก็บรักษา และการนำมาใช้อย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะทั้งด้านการใช้งานบันทึกเสียงในสตูดิโอ หรือการแสดงสดบนเวทีเล็ก-ใหญ่ก็ตาม
หากท่านมีความสนใจ หรือต้องการติดต่อสอบถามข้อมูล เกี่ยวกับสินค้า หรืองานติดตั้งระบบเสียงต่าง ๆ กับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ท่านสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ :
- Tel. : 098-785-5549
- Facebook : AT prosound-shop
- Line : @atprosound
- E-mail : [email protected]
เวลาทำการ
Monday | 9:00 – 18:00 |
Tuesday | 9:00 – 18:00 |
Wednesday | 9:00 – 18:00 |
Thursday | 9:00 – 18:00 |
Friday | 9:00 – 18:00 |
Saturday | 10:00 – 19:00 |
Sunday | Closed |
AT Prosound ยินดีให้บริการครับ
ติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook AT Prosound
บทความโดย : ณัฐพจน์ วิจารัตน์