หูฟัง ประเภทไหนเหมาะกับการใช้งานของเรา
วิธีการใช้งาน
หูฟัง ประเภทไหนเหมาะกับการใช้งานของเรา
หูฟัง ในทุกวันนี้เป็นของที่เข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตคนเรา ทุกๆวัน คนส่วนใหญ่เลือกฟังเพลงในกิจวัตรประจำวันต่างๆ เช่น ฟังเพลงตอนนั่งรถ ตอนทำงาน เป็นต้น และถ้าเราต้องการใช้หูฟังในการฟังเพลง หูฟังประเภทไหนเหมาะกับการใช้งานของเรามากที่สุด
หูฟังที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบันมี 3 ประเภท คือ
1. หูฟังเอียร์บัด (Earbuds)
หูฟัง Earbuds ซึ่งหูฟังประเภทนี้เป็นหูฟังที่มีขนาดเล็ก ใช้งานโดยสอดเข้าไปในหู แต่อยู่ข้างนอกรูหู ใส่สบายไม่อึดอัด แต่ป้องกันเสียงจากภายนอกได้ไม่ดีเท่าไร
ข้อดี : หูฟัง Earbuds นั้นให้การสวมใส่ที่สบายให้ น้ำเสียงที่เปิดโล่งโดยไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด และ สามารถพก พาไปไหนมาไหนได้สะดวก
ข้อเสีย : เนื่องจากหูฟังประเภท Earbuds นั้นไม่ ได้เสียบเข้าไปในรูหูโดยตรงจึงทำให้การฟังเพลงนั้นจะมีเสียงจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามากวนใจตลอดเวลา ทำให้ต้อง คอยเร่งเสียงสู้กับเสียงจากภายนอกอยู่ตลอด และ ทำให้ รายละเอียดของเสียงดนตรีบางย่านถูกลดทอนลงไปครับ
2. หูฟังแบบเสียบหู (In-Ear)
หูฟังแบบเสียบหู (In-Ear) จะมีจุดเด่นคือตัวหูฟังจะมีลักษณะเป็นจุกยาง ที่ใช้ในการเสียบเข้าไปในรูหู ซื่งจุกยางของหูฟังนั้นก็มีหลายขนาดให้เราเลือกใช้ให้เหมาะสมกับขนาดหูของเรา เสียงที่ได้จากหูฟังประเภทนี้จะได้ยินเสียงครบในทุกย่าน ซึ่งถือว่าเหมาะสมในการฟังเพลงทีต้องการลายละเอียดเสียง
ข้อดี : พกพาไปใช้งานได้อย่างสะดวก สามารถ ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี โดยจะให้ รายละเอียดของเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สามารถจับต้องรายละเอียดของเสียงเพลงได้มากว่าแบบ Earbuds ครับ
ข้อเสีย : เนื่องจากหูฟังประเภท In-Ear นั้นจะมี ลักษณะการสวมใส่แบบยัดเข้ารูหูโดยตรงจึงทำให้ไม่ได้ยิน เสียงคนรอบข้างที่กำลังเรียกเราอยู่ อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ถ้าหากต้องเดินในที่สาธารณะ
3. หูฟัง Headphone (Full-Size)
หูฟัง Headphone (Full-Size) จะแบ่งออกได้อีก 2 แบบ คือ
- หูฟังครอบหู (OVER-EAR)
หูฟังประเภท ครอบหู นั้นจะมีลักษณะของการสวมใส่แบบครอบปิดใบหูได้อย่างมิดชิด ตัวหูฟังนั้นจะมีโครงสร้าง ที่ใหญ่ แต่ให้รายละเอียดของเสียงเครื่องดนตรีได้อย่าง ยอดเยี่ยม ทั้งมิติ อิมเมจของเสียง และ ความกว้างของเวที เสียงที่ดูสมจริงครับ
ข้อดี : ข้อดีของหูฟังประเภท Full-Size นั้นก็คือให้ การสวมใส่ที่สบายเนื่องจากตัวแพดของหูฟังประเภทนี้จะให้ผิวสัมผัสที่นุ่ม ครอบปิดใบหูได้อย่างมิดชิด และ ที่สำคัญให ้ความสมจริงของเสียงดนตรีได้มากกว่าหูฟังประเภทอื่น ๆ เนื่องจากขนาดของตัวไดร์เวอร์ที่ใหญ่กว่าหูฟังประเภท Earbuds หรือ In-Ear มากจึงทำให้ได้เวทีของเสียงที่กว้าง และมีอิมเมจของชิ้นดนตรีที่ใหญ่โตจนจับต้องได้ง่ายกว่า มาก ๆ ครับ
ข้อเสีย : เนื่องจากหูฟังประเภท Full-Size นั้นมี ขนาดที่ใหญ่ และมีนำ้หนักมากจึงทำให้การพกพาไปใช้งาน ตามที่ต่าง ๆ นั้นดูจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากกว่าหูฟังประเภทอื่น ๆ ครับ จึงทำให้การใช้งานส่วนใหญ่จะเป็นการใช้งานอยู่ที่บ้าน หรือ ตามโต๊ะทำงานกันเสียมากกว่าครับ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่
ภาวะสูญเสียการได้ยิน (Hearing Loss) อาการที่ไม่ควรมองข้าม!!!
ทำความรู้จัก ซาวด์การ์ด และ ออดิโออินเตอร์เฟส
5 แอปฝึกหู 2020 ใครๆก็หูเทพได้
- หูฟังครอบหู (ON-EAR)
หูฟังประเภท On-Ear นี้มีลักษณะการสวมใส่ที่ครอบหู เหมือนกันกับแบบ Full-Size ครับ เพียงแต่ว่าตัวแพดนั้นจะ ไม่ได้ครอบปิดใบหูทั้งหมด แต่จะเป็นการวางเอาไว้บนใบหู แทนครับ นอกจากนี้ก็ถือว่ามีหลักในการใช้งานที่เหมือนกัน กับ Full-Size
ข้อดี : หูฟังประเภท On-Ear นั้นจะให้คุณภาพเสียง ที่ดีเนื่องจากขนาดของตัวไดร์เวอร์ที่ใหญ่ สามารถถ่ายทอด รายละเอียดของเสียงออกมาได้ดี และ ยังสามารถพกพาไป ใช้งานได้อย่างสะดวกกว่าหูฟังแบบ Full-Size ครับ
ข้อเสีย : เนื่องจากตัวหูฟังแบบ On-Ear นั้นจะมี ลักษณะของการสวมใส่ที่ต้องวางตัวแพดลงบนใบหูจึงทำให้การใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ นั้นอาจเกิดอาการปวดหู ได้ เนื่องจากการกดทับของตัวแพด และ ตัวก้านที่คอยบีบ เข้ามานั่นเองครับ ตามโต๊ะทำงานกันเสียมากกว่าครับ
สรุป ตอนนี้เราก็ได้ทำการรู้จักและเข้าใจประเภทของหูฟังกันแล้ว แต่ละประเภทก็จะมีทั้งข้อดี และ ข้อเสีย และในการเลือกซื้อ ก็อยู่ที่การกำหนดช่วงราคาของหูฟังที่เราต้องการ ซึ่งหูฟังจะมีหลายระดับราคา ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติอื่น ๆ และวัสดุที่ผลิต ถ้าเรามีราคาที่ต้องการอยู่แล้ว เราก็สามารถเลือกประเภทของหูฟังที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราได้
ติดตามช่องทางต่างๆของ AT PROSOUND