Drive-in Concert

Drive-in Concert มิติใหม่การชมคอนเสิร์ต

ด้วยสถานการณ์โรคระบาด ส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลก มาตรการถูกใช้ ผู้คนต่างต้องรับสภาพ เปลี่ยนแปลงรูปแบบวิถีชีวิต เรื่องกิน เรื่องอยู่ ยิ่งเรื่องความบันเทิง การพบปะ สังสรรค์ ตัดออกไปได้เลยในตอนนี้ ธุรกิจความบันเทิง รวมไปถึงสถานบริการต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ต่างต้องปรับตัวฝ่าวิกฤติ เพื่อประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอด แต่สถานการณ์แบบนี้แหละ ที่ทำให้เกิดไอเดียเจ๋งๆ ขึ้นมา นั่นก็คือ การจัดคอนเสิร์ตแบบ “Drive in concert” ที่ให้เเฟนเพลงขับรถเข้าไปจอดดู

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ เมืองฮอร์ฮูส ประเทศเดนมาร์ก เป็นไอเดียของ “Mads Langer” นักร้องชื่อดังชาวเดนมาร์ค โดยคอนเสิร์ตนี้มีรูปแบบต่างไปจากคอนเสิร์ตอื่นๆ คือ แฟนเพลง จะขับรถเข้าไปในลานคอนเสิร์ตขนาดกว้างเป็นพิเศษ และถ่ายทอดสัญญาณเสียงผ่านคลื่นวิทยุ FM และสัญญาณภาพผ่านแอพพลิเคชั่น Zoom ให้แฟนเพลงในรถยนต์ ได้ชมอย่างใกล้ชิดและทั่วถึง และจอดรถเทียบชมคอนเสิร์ตกันแบบเว้นระยะห่างตามมาตรการของรัฐบาลอีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ เรียกว่าครั้งแรกของโลกเลยก็ว่าได้ คอนเสิร์ตครั้งนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก การันตีโดยการขายบัตร 500 ใบหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว

ปรากฏการณ์ Drive in concert แบบนี้ ไม่ได้มีเพียงของ Mads Langer เท่านั้น ในโซนเอเชียบ้านเรา ประเทศเกาหลี ก็เริ่มมีการจัดคอนเสิร์ตแบบนี้แล้วเช่นกัน ท่ามกลางลานจอดรถที่มีการกระพริบไฟหน้ารถตามจังหวะ แทนเสียงปรบมือ คอนเสิร์ตรูปแบบนี้เริ่มได้รับความสนใจอย่างแพร่หลาย และถูกจัดขึ้นในหลายๆ ที่ จะเป็นอย่างไร ?

ถ้าในประเทศไทยมีคนนำแนวคิดนี้มาใช้บ้าง

มีมหรสพอีกรูปแบบหนึ่ง ที่เรียกว่า “Drive-In Theater” คือ โรงหนัง Outdoor ขนาดใหญ่ ที่ให้ผู้คนขับรถไปจอดที่ลานหน้าจอ นั่งชมภาพยนต์บนที่นั่งแบบส่วนตัวในรถยนต์ เป็นรูปแบบการชมภาพยนต์ที่ได้รับความนิยมอีกครั้ง โดยแนวคิดนี้ถูกจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1933 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน “Drive-In Theater” มีความนิยมจัดกันมากขึ้น อย่างในเยอรมัน ก็มีการจัดแสดงดนตรี ก่อนที่ภาพยนต์จะฉายเพื่อรอแสงลับขอบฟ้าเสียก่อน

แล้วเรื่องระบบเสียง Drive in cocert มันจะโอเคไหม ?

แน่นอนว่าอรรถรสมันต้องเปลี่ยนไป จากเวทีที่มีการแขวนชุดลำโพง ซ้าย-ขวา ขนาดใหญ่ ให้เสียงที่เร้าใจ สนุกตามเพลงได้อย่างสุดมัน ชุดลำโพง PA ที่เวที
ถูกแทนที่โดยเครื่องเสียงในรถ ต่างคนต่างฟังเพลงจากรถยนต์ของตัวเอง เสียงจะดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับระบบเสียงในรถคุณ

– เรื่องมิติเสียง ความเป็นสเตอริโอ ก็ยังมีอยู่ในคอนเสิร์ต Drive in concert รูปแบบนี้ อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ว่ามีการถ่ายทอดสัญญาณเสียงผ่านคลื่นวิทยุ FM สัญญาณที่มาจากเวที เป็นระบบสเตอริโอมัลติเพล็กซ์ (Stereo Multiplex) เรื่องเครื่องดนตรีที่ถูกจัดตำแหน่ง L – R เสียงออกมายังเหมือนเดิม แต่ก็ขึ้นอยู่กับเครื่องรับวิทยุในรถด้วยว่า รองรับระบบสเตอริโอหรือเปล่า ซึ่งรถยนต์ส่วนใหญ่ในยุคนี้ ก็รองรับระบบนี้หมดแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่า ถ้าวันหนึ่งถ้าคุณมีโอกาสนั่งดูคอนเสิร์ตในรถยนต์ของคุณ มันจะเป็นสเตอริโอหรือเปล่า?

– หมดปัญหาเรื่องเสียงมาไม่เท่ากัน ตำแหน่งนี้ย่านเสียงต่ำหาย ตำแหน่งนั้นดังเกินไป สารพัดปัญหากับการจัดการระบบเสียง PA ขนาดใหญ่ จากที่ต้องมีการอไลน์เม้นต์ชุดลำโพง การทำโทนเสียง การทำดีเลย์ ฯลฯ เพื่อจะให้ผู้ชม ณ ตำแหน่งต่างๆ ในบริเวณงาน ได้ยินเสียงที่ดีเท่ากันเท่าที่จะสามารถทำได้ แต่รูปแบบเสียงในคอนเสิร์ตแบบนี้ ทำแค่ Mix Mastering กับ Mornitor ศิลปิน ให้ออกมาดีก็เพียงพอแล้ว

– ลดการใช้ทรัพยากรณ์ระบบเสียง ชุดตู้ลำโพงไลน์อาเรย์พวงยาว ตู้ซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ เพาเวอร์แอมป์อีกจำนวนไม่น้อย ชุดลำโพงดีเลย์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ตัดออกให้หมด ก็ถือว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งในการลดต้นทุนสำหรับผู้จัดงาน การจัดซื้อจัดจ้าง เปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ถ่ายทอดสัญญาณแทน ช่วยประหยัดได้เยอะ แต่ก็ต้องแลกด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงในรถของผู้ชม

– ถูกใจนักปรับเสียง ลองนึกถึงในมุมของมือมิกซ์ ที่ออกงานกับวงดนตรีทั่วๆ ไป มักจะมีแขกในงานมาบอกว่าเอาอันนี้ขึ้นนิด เอาอันนั้นลงหน่อย บางทียังไม่ทันปรับ แค่เอามือไปแตะปุ่ม ก็บอกว่า “โอเค..ใช้ได้เเล้ว” นับเป็นปัญหาที่เชื่อว่ามือมิกซ์หลายๆ คน คงจะเคยเจอ แต่ถ้าเป็นรูปแบบ “Drive in concert” นั้น ทั้งรถ ทั้งเครื่องเสียง อยู่ในมือของผู้ชม มีสิทธิเต็มที่ในการปรับแต่ง แล้วแต่ว่าจะชอบโทนเสียงแบบไหน ปรับแล้วก็ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อรถคันข้างๆ ของคุณ แต่อย่าเปิดดังเกินก็พอ…

ยังไงก็แล้วแต่ ในฐานะผู้เขียนบทความ ก็อยากให้สถานการณ์เหล่านี้ผ่านไปโดยเร็ววัน คงไม่มีใครอยากนั่งนิ่งๆ ชมคอนเสิร์ตในรถยนต์ Drive in concert มากกว่าการออกมาสัมผัสกับบรรยากาศคอนเสิร์ตจริงๆ อย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็ถือว่า “Drive in concert” เป็นทางออกที่ดี ให้กับผู้คนที่อยากสัมผัสกับความบันเทิงด้านหน้าเวที ในช่วงสภาวะวิกฤตินี้

ขอบคุณบทความจาก คุณนิติพล ชัยมั่น

อ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องได้ที่