Bluetooth เทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สาย

ในโลกยุคปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รู้จัก Bluetooth ( บลูทูธ ) เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายที่อุปกรณ์ IT แทบจะทุกอย่างต้องมี แน่นอนครับว่าทุกคนนั้นรู้จักเป็นอย่างดี เพราะทุกวันนี้ ใคร ๆ ก็ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต แต่จะมีใครรู้บ้างครับว่าเทคโนโลยีนี้ มีประวัติที่น่าสนใจอยู่มาก วันนี้ ATprosound หยิบยกเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกันครับ

บลูทูธ คืออะไร

Bluetooth หรือ บลูทูธ เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายที่เชื่อมต่อผ่านสัญญาณความถี่ 2.4GHz ซึ่งแน่นอนว่าเป็นคลื่นความถี่เดียวกับความถี่ WIFI ที่เราใช้งานกันครับ แล้วมันแตกต่างจาก WIFI ยังไงหละ ? คำตอบของคำถามเราจะมาอธิบายกันในบทความนี้ครับ

การเชื่อมต่อไร้สายดังกล่าวเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจาก Bluetooth กลายมาเป็นมาตรฐานอีก 1 มาตรฐานในระบบการเชื่อมต่อไร้สายที่ทั่วโลกต่างยอมรับ และไขว่คว้าจะนำฟังก์ชันดังกล่าวเข้ามาไว้ในอุปกรณ์ IT ของตน ด้วยความยืดหยุ่นด้านการใช้งานและความตอบโจทย์ของการใช้ชีวิตในทุกวันนี้ Bluetooth จึงเป็นสิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจให้มากขึ้น เพื่อการใช้งานที่ดีต่อไป

ความเป็นมาของ บลูทูธ

Bluetooth หรือ “ฟันสีฟ้า” จริง ๆ แล้วเป็นที่มาจากชื่อของกษัตริย์ของประเทศเดนมาร์ก ย้อนกลับไปช่วงปี ค.ศ. 940-981 หรือประมาณ 1,000 ปีที่แล้ว กษัตริย์องค์นี้ได้รวบรวมประเทศเดนมาร์กและนอร์เวย์เข้าเป็นหนึ่งเดียว และเหตุที่ท่านถูกตั้งชื่อว่า Bluetooth ก็เพราะว่าท่านมีปัญหาเรื่องฟันจนฟันเป็นสีฟ้า แต่ความเป็นมาที่ชื่อนี้กลายมาเป็นชื่อเรียกเทคโนโลยบลูทูธในปัจจุบัน เกิดขึ้นเมื่อ ปี 1989 เมื่อ Nils Rydbeck ซึ่งเป็น CEO ของ Ericsson Mobile ได้มีแนวคิดที่จะสร้างการเชื่อมต่อไร้สายเพื่อทำให้หูฟังที่เขาพัฒนาเป็น หูฟังไร้สาย อย่างเต็มรูปแบบ เพราะเขามองว่าหูฟังที่มีสายรุงรังนั้น เป็นเรื่องที่น่ารำคาญ

ด้วยเวลาที่ผ่านมานานและด้วยความมุ่งมั่นของทีมพัฒนาทำให้เทคโนโลยีไร้สายนี้มีผลิตภัณฑ์ออกมาในปี 1999 ซึ่งเป็นชุด หูฟังไร้สาย เมื่อเทคโนโลยีนี้เริ่มเข้ามามีบทบาทกับการพัฒนาจึงมีอีกหลาย ๆ องค์กรและหลายบริษัทเข้าร่วมกับการวิจัยนี้และตกลงกันว่าจะพัฒนาให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และหนึ่งในนั้นก็คือบริษัท Intel ซึ่ง ณ ตอนนั้นเอง แทนจาก intel ได้อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ของกษัตริย์เดนมาร์ค และเห็นว่าควรตั้งชื่อเทคโนโลยีนี้ว่า Bluetooth เพราะเป็นการรวมกันของเครือข่ายในการรับส่งข้อมูล และหากลองสังเกตุดูที่สัญลักษณ์ของบลูทูธ จะพบว่าประกอบไปด้วยอักษรรูน 2 ตัวอักษร คือ B และ H ที่เป็นชื่อของกษัตริย์องค์ดังกล่าว กลายมาเป็นเทคโนโลยีและโลโก้ที่ใช้กันมาจนปัจจุบัน

การทำงานของ บลูทูธ

บลูทูธจะทำงานด้วยการรับส่งข้อมูลบนความถี่สาธารณะ 2.4GHz แต่จะแยกออกไปในแต่ละประเทศ ซึ่งการรับ-ส่งข้อมูลของบลูทูธจะแบ่งช่องสัญญาณออกเป็น 79 ช่องและจะใช้ช่องดังกล่าวเพื่อส่งข้อมูลสลับกันไปมา 1,600 ครั้ง/วินาที ซึ่งสามารถส่งสัญญาณได้ในระยะ 1-100 เมตรตาม Class ของ Bluetooth ซึ่งในการเชื่อมต่อแต่ละครั้งจะมีการป้องกันเรื่องความปลอดภัย

โดยหลักแล้ว Bluetooth จะถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในการรับ-ส่ง สัญญาณในระยะใกล้ ๆ และใช้งานรับ-ส่งระหว่างอุปกรณ์กับอุปกรณ์ เนื่องจากต้องการให้สามารถใช้งานได้นานด้วยแบตเตอรี่ที่ทำงานร่วมกับ Bluetooth เทคโนโลยีนี้จึงมีข้อจำกัดเรื่องของกำลังส่งที่ค่อนข้างจะน้อย

รู้จัก Bluetooth แต่ละ Class

Bluetooth Class 1: สามารถเชื่อมต่อได้ไกลประมาณ 100 เมตร มีกำลังส่งสัญญาณประมาณ 100 มิลลิวัตต์
Bluetooth Class 2: สามารถเชื่อมต่อได้ไกลประมาณ 10 เมตร โดยมีกำลังส่งสัญญาณประมาณ 2.5 มิลลิวัตต์
Bluetooth Class 3: สามารถเชื่อมต่อได้ไกลประมาณ 1 เมตร โดยมีกำลังส่งสัญญาณประมาณ 1 มิลลิวัตต์
Bluetooth Class 4: สามารถเชื่อมต่อได้ไกลประมาณ 0.5 เมตร โดยมีกำลังส่งสัญญาณประมาณ 0.5 มิลลิวัตต์

Bluetooth เวอร์ชั่นต่าง ๆ

Bluetooth เป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนามาตลอด ทำให้ปัจจุบัน Bluetooth มีหลากหลาย Version ซึ่งในแต่ละ Version ก็จะมีความแตกต่างกันไปเรื่องของความเร็วในการส่งถ่ายข้อมูล และเทคโนโลยีเรื่องการประมวลผลสัญญาณเสียง

Bluetooth 1.0
Bluetooth 2.0
Bluetooth 2.0+EDR
Bluetooth 2.1+EDR
Bluetooth 3.0+EDR
Bluetooth 4.0
Bluetooth 4.1
Bluetooth 4.2
Bluetooth 5.0

จะเห็นว่ามีการพัฒนาของ Bluetooth มามากมายซึ่งข้อดีข้อเสียและฟังก์ชันแตกต่างกันไป ซึ่งรายละเอียดจะขอกล่าวในบทความถัดไป และปัจจุบัน Bluetooth 5.0 และ 5.1 กำลังกลายเป็นที่นิยมและกลายเป็นเทคโนโลยีใหม่แห่งการพัฒนารุ่นต่อ ๆ ไป

Bluetooth และ WIFI

เราอาจจะมองว่าทั้งสองรูปแบบเป็นการส่งข้อมูลเหมือนกัน แต่ทั้ง 2 รูปแบบนั้นก็ยังมีข้อแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้านที่ยังทดแทนกันยาก เช่นความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูล สัญญาณ Bluetooth ยังด้อยเรื่องนี้เพราะผู้พัฒนาตั้งมั่นว่า Bluetooth ต้องสามารถใช้งานได้นานท่ามกลางอุปกรณ์ไร้สายที่ยังมีพลังงานรองรับ ซึ่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Bluetooth ไม่สามารถใช้งานในระยะไกลได้ ส่วน WIFI นั้นด้วยระยะที่ไกลกว่ากำลังส่งที่มากกว่า ทำให้ต้องใช้พลังงานที่มากตามไปด้วย

สรุป

ถึงแม้ว่า Bluetooth จะมีการพัฒนามามากมายก็ตามแต่ปัจจุบันก็ยังไม่สามารถบอกได้เต็มปากว่าทุกฟังก์ชันและทุกอย่างของการใช้ชีวิตจะต้องไร้สาย เรามองว่าความสะดวกสบายดังกล่าวเป็นหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกต่อผู้คนได้เป็นอย่างดี และในการพัฒนาในอนาคตเราเองก็ไม่สามารถประเมินได้ว่าเทคโนโลยีนี้จะมีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจหรือไม่ แต่ในฐานะผู้ใช้งาน ก็จำเป็นที่จะต้องรู้ข้อมูลเบื้องต้น เพื่อเป็นปัจจัยในการตัดสินใจซื้อและอำนวยความสะดวกให้เรา

และในบทความนี้ต้องขอจบลงเพียงเท่านี้ครับ ท่านสามารถติดตามอ่านบทความดี ๆ ได้ที่นี่ Click และสามารถเลือกซื้ออุปกรณ์ระบบเสียงมืออาชีพจากเราได้ที่นี่ครับ Click หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง Bluetooth สามารถเข้ามาที่นี่ได้เลยครับ Click