รีวิว | Soundvision SU-890D-II/HT

Soundvision SU-890D-II/HT รีวิว ! | สวัสดีครับ ผม “นัท เอที” กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความรีวิวสินค้าจากพวกเรา AT Prosound ต่อเนื่องมาจากบทความก่อนหน้านี้ ที่ผมได้เขียนรีวิวเจ้า Soundvision SU-990D/HT ไปแล้ว ดังนั้นในบทความนี้ เรามาว่ากันต่อด้วยไมค์ลอยคู่รุ่นรองลงมา นั่นก็คือรุ่น “SU-890D-II/HT″ ไมค์ลอยสัญชาติไทย ที่มีค่าตัวในราคา 10,900 บาท (ราคา ณ วันที่ 10/05/2022) ในส่วนของรายละเอียดที่น่าสนใจ รีวิว และสเปคต่าง ๆ ของเจ้า SU-890D-II/HT จะเป็นอย่างไรนั้น เรามาติดตามกันได้ในบทความนี้ครับ

Soundvision SU-890D

รีวิว

อย่างแรกเลยผมต้องบอกก่อนว่า ไมค์ลอยคู่ Soundvision SU-890D-II/HT เป็นชุดไมค์ลอยระบบสัญญาณดิจิตอล ที่รองรับช่วงความถี่ 694 – 703MHz เป็นคลื่นความถี่ที่ปัจจุบันรับรองโดย กสทช. มีความสามารถรับสัญญาณได้ไกลถึง 100 เมตร อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นที่โดดเด่นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเนื้อเสียงที่ชัดเจน รวมถึงการทนต่อแรงดันเสียงสูงสุดได้สูง (SPL) นั่นคือ เมื่อตะโกนใส่ไดอาแฟรมของไมโครโฟนแล้ว เสียงที่ออกมานั้นก็ยังคงไม่แตก และยังคงรักษาคุณภาพของเนื้อเสียงเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยมครับ

ไมค์ลอย มือถือคู่

SOUNDVISION SU-890D-II/HT ไมค์ลอยคู่ UHF ย่าน 694.5-702.7 MHz ระยะ 100 เมตร
฿10,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

เอที รีวิว !

มาดูกันที่ด้านหน้าของเครื่อง Receiver ครับ ก็จะสังเกตได้ว่ามีจอแสดงผลแบบ TFT LCD ที่มีมาให้จำนวน 2 จอ แยกกันอิสระระหว่างแชนแนล A และแชนแนล B ทำให้ผู้ใช้งานมองเห็นค่าต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน จอเหล่านี้ก็จะแสดงค่าต่าง ๆ ยกตัวอย่าง เช่น คลื่นความถี่ , เมนูฟังก์ชั่น , ความแรงสัญญาณคลื่นความถี่ (RF) และระดับความแรงสัญญาณเสียงที่เข้าสู่ไมโครโฟน (AF) เป็นต้น

นอกจากจอแสดงแล้วก็ยังมีปุ่มปรับต่าง ๆ อีก เช่น Knob Volume เพื่อเพิ่ม-ลดความดังของไมโครโฟน , ปุ่ม IR เพื่อ Sync กันระหว่างเครื่อง Receiver กับไมโครโฟน , ปุ่ม Lock เพื่อล็อก หรือปลดล็อกการปรับค่าต่าง ๆ และปุ่ม Main Knob ที่สามารถหมุนซ้าย-ขวา และกดได้ในปุ่มเดียว ใช้สำหรับเลือกเมนูการตั้งค่าต่าง ๆ

Soundvision SU-890D

เอที รีวิว !

ที่ด้านหลังเครื่องก็จะประกอบไปด้วยภาค Output และช่องต่อสำหรับเสาสัญญาณครับ โดย Output ที่มีมาให้ ก็จะมีทั้งแบบสัญญาณ Balanced XLR จำนวน 2 ช่อง แยกกันอิสระระหว่างแชนแนล A และ แชนแนล B อีกทั้งยังมีช่อง Mix Out แบบสายสัญญาณ 1/4″ TS หรือ TRS จำนวน 1 ช่อง เป็นการรวมสัญญาณทั้ง 2 แชนแนล ให้ออกมาใน Output ช่องเดียวครับ

ช่องต่อเสาสัญญาณที่มีมาให้ ก็จะแยกกันระหว่างทั้ง 2 แชนแนลเช่นกันครับ ในส่วนของอุปกรณ์เสริมภายในกล่อง Soundvision SU-890D-II/HT ก็จะมีอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ประกอบไปด้วย ปลีกยึดแร็ค , สายสัญญาณ 1/4″ TS to TS และแบตเตอรี่ครับ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

เอที รีวิว !

ทีนี้เรามาดูที่ตัวของไมโครโฟนกันบ้าง โดยข้อมูลพื้นฐานไมโครโฟนของ SU-890D-II/HT ก็คือ เป็นไมโครโฟนประเภท Dynamic ที่มีมุมการรับเสียงแบบ Cardioid และมีความสามารถในการตอบสนองความถี่ของเสียง ตั้งแต่ 50Hz จนถึง 20kHz ถือว่าตอบสนองความถี่ได้กว้างพอสมควรเลย สำหรับไมโครโฟนประเภท Dynamic

ตัวไมโครโฟนมีความคงทน เนื่องจากที่ตัว Body วัสดุที่ใช้ทำมาจากเหล็ก จะมีแต่ส่วนช่วงปลาย หรือส่วนรางถ่านที่ทำมาจากพลาสติกครับ นอกเหนือจากฟังก์ชั่น Auto Mute เมื่อวางไมค์ในลักษณะขนานกับพื้น หรือเมื่อไมค์หล่นลงกับพื้น ที่มีแบบเดียวกับในรุ่น SU-990D/HT แล้ว ไมโครโฟนของ SU-890D-II/HT ก็ยังสามารถใช้งานได้ 2 โหมดด้วยกัน นั่นก็คือ

Low Transmitter คือ โหมดนี้จะเหมาะกับการใช้งานในสถานที่เล็ก ๆ เช่น ห้องประชุม ผับ หรือห้องคาราโอเกะ เป็นต้น เพื่อไม่ให้ไมโครโฟนส่งสัญญาณออกไป ในระดับที่แรงจนเกินไป และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สัญญาณไปเบียดกับคลื่นสัญญาณอื่น ๆ นั่นเอง อีกทั้งยังทำให้สามารถใช้ไมโครโฟนไร้สายได้เยอะขึ้นอีกด้วย
High Transmitter คือ โหมดนี้จะเหมาะกับการใช้งานกับสถานที่ใหญ่ ๆ หรืองานกลางแจ้ง ที่ต้องการให้ไมโครโฟนสามารถส่งสัญญาณได้ไกลขึ้นนั่นเองครับ

Soundvision SU-890D

เอที รีวิว !

ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการจะทำการ Sync ระหว่างเครื่อง Receiver กับไมโครโฟน ก็สามารถทำได้ด้วยการใช้ปุ่ม Main Knob หมุนเลือกไปที่เมนูฟังก์ชั่น Scan ที่แสดงอยู่บนหน้าจอ จากนั้นกดที่ปุ่ม Main Knob หนึ่งครั้ง เมื่อเข้ามาที่หน้าเมนูฟังก์ชั่นสแกนแล้ว ผู้ใช้ก็สามารถเลือกได้อีกว่า ต้องการสแกนคลื่นความถี่สูงขึ้นไป หรือต่ำลงมา ด้วยการกดปุ่ม Main Knob ที่ตัวเลือก Up หรือ Down ก็ได้ครับ

เมื่อตัวเครื่องทำการสแกนคลื่นเรียบร้อยแล้ว มันก็จะแสดงผลออกมาเป็น “กราฟ” ให้เราเห็นว่า ช่วงความถี่ไหนที่เราสามารถใช้ได้ โดยลักษณะของกราฟจะเป็นในรูปแบบของ “กราฟนูน” (ช่วงความถี่ที่ถูกใช้อยู่) และ “กราฟแบน” (ช่วงความถี่ว่าง) ต่อมาให้กดที่ปุ่ม IR และนำไมโครโฟนมาจ่อบริเวณไฟเรดาร์ IR สีแดงที่หน้าเครื่อง Receiver เพื่อทำการ Sync จากนั้นตัวเครื่องก็จะทำการสแกนคลื่น และ Sync ให้โดยอัตโนมัติครับ

สเปค

System
ช่วงความถี่	UHF 694.5 – 702.7MHz
ช่องสัญญาณ	156 ช่องสัญญาณ = แชนแนล A : 78 ช่อง , แชนแนล B : 78 ช่อง
แบนด์วิธ	8.3MHz
Dynamic Range	90dB
Total Harmonic Distortion	<0.5%
การตอบสนองความถี่	30Hz – 20kHz (±2dB)
Demodulation Mode	DQPSK
Sampling Rate	48kHz
Output	1 x 6.3mm , 2 x XLR Balanced
SU-890DR : DUAL RECEIVER
การตอบสนองความถี่	30Hz – 20kHz (±2dB)
Power Supply	DC 12V-18V 1A
การใช้พลังงาน	3 วัตต์
Signal / Noise Ratio	90dB
Receiving Sensitivity	-95dBm
SU-890HT : Handheld Transmitter
ช่วงความถี่	UHF 694.5 – 702.7MHz
แบนด์วิธ	8.3 MHz
Frequency Switch	IR SYNC
ประเภทไมโครโฟน	Dynamic
มุมการรับเสียง	Cardioid
การตอบสนองความถี่	50Hz – 18kHz (±3dB)
กำลังขับ	10mW / 30mW
Harmonic Radiation	<-50dBc
แบตเตอรี่	3V (2 x 1.5V AA Battery)
อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด (ประเภท Alkaline)	8 ชั่วโมง (โดยประมาณ)

สรุป

โดยรวมแล้ว Soundvision SU-890D-II/HT ถือว่าเป็นไมค์ลอยคู่สัญชาติไทยอีกรุ่นหนึ่ง ที่มีมาตรฐาน และคุณภาพไม่แพ้แบรนด์ต่างชาติอื่น ๆ เลย ทั้งด้วยเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ ที่มีความครอบคลุม ไม่ว่าผู้ใช้จะใช้งานกับสถานที่เล็ก ๆ อย่างห้องประชุม ห้องคาราโอเกะ หรือแม้แต่สถานที่งานกลางแจ้ง อย่างเช่น งานคอนเสิร์ตทั้งเล็ก และใหญ่ SU-890D-II/HT ก็สามารถรับมือได้ดี อีกทั้งยังทำงานด้วยระบบสัญญาณดิจิตอล สแกนความถี่ได้อัตโนมัติ และมีฟังก์ชั่น Auto Mute เมื่อวางไมโครโฟนในลักษณะขนานกับพื้น และเมื่อเกิดการหล่นลงกับพื้น ถือว่าเป็นไมโครโฟนไร้สายที่มีค่าตัวหลักหมื่นต้น ๆ อีกรุ่นหนึ่งที่น่าพิจารณาในการลงทุนครับ