ลำโพงซับวูฟเฟอร์ การวางในงาน Live sound
ลำโพงซับวูฟเฟอร์ การวาง ในงาน Live sound แบบวางข้างเวทีซ้ายขวา(LR SUB) และวางเรียงกันกลางเวที(Center Sub) จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างไร
การวางลำโพง Subwoofer แบบซ้ายขวาข้างเวที จะมีแหล่งกำเนิดเสียงความถี่ต่ำแบบ 2 จุด คลื่นเสียงจากตู้ลำโพงจะเสริมกัน และหักล้างกันในบางพื้นที่ จะสังเกตได้ว่า เสียงที่เกิดขึ้น ณ จุดต่างๆ ในบริเวณงานไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่ บริเวณเส้นสมมาตรระหว่างตู้ หรือบริเวณกลางเวที จะมีความดังที่มาก เพราะระยะห่างจากผู้ฟัง ถึงตู้ลำโพงด้านซ้ายและตู้ลำโพงด้านขวา เท่ากัน คลื่นเสียง ใช้เวลาเดินทางมาถึงผู้ฟังพร้อมกัน ความถี่เสียงเดียวกันจึงเกิดการเสริมกัน จึงทำให้ความดังเพิ่มขึ้น
ในขณะเดียวกัน หากเปลี่ยนพื้นที่ในการรับฟังเป็นจุดที่เสียงจากตู้ลำโพงทั้งสองข้าง ใช้เวลาเดินทางมาถึงผู้ฟังไม่พร้อมกัน ในบางช่วงความถี่เสียง จะเกิดการหักล้างกัน ความดังจึงลดลง
กรณีการวาง Subwoofer ด้านข้างเวที จะมีความดังของเสียงที่แตกต่างกันไป บางจุดเสียงดังมาก บางจุดเสียงเบามาก ตามตำแหน่งที่ฟัง
การวางตู้ลักษณะนี้ สะดวกต่อการเซตอัพ ไม่ต้องใช้โปรเซสเซอร์ทำดีเลย์ให้ตู้แต่ละใบ ให้ความดังสูง แต่ต้องและด้วยจุดบอดที่เยอะเช่นกัน
การวางลำโพง Subwoofer แบบเรียงกันกลางเวที อาจวางชิดกันหรือเว้นช่องห่างกันเล็กน้อย โดยถือว่ามีแหล่งกำเนิดเสียงความถี่ต่ำที่เรียงต่อกันเป็นแนวยาว 1 ชุด จะสังเกตได้ว่า เสียงที่เกิดขึ้น ณ จุดต่างๆ ในบริเวณงานมีความดังใกล้เคียงกัน แม้ความดัง ณ ตำแหน่งที่มีการเสริมความถี่กันมากที่สุด จะดังไม่มาก แต่จุดบอด หรือจุดที่เสียงหักล้างความถี่กัน จะน้อยกว่าการวางตู้แบบซ้ายขวา การวางตู้ลักษณะนี้ จำเป็นต้องตั้งค่า Delay ให้กับตู้แต่ละใบ เพื่อจัดการเรื่องเฟสให้เหมาะสม ให้เสียงมีความดังเฉลี่ยใกล้เคียงกันทั่วทั้งบริเวณงาน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- Flown Subwoofer เทคนิคอย่างโปรจากเครื่องเสียงกลางเเจ้งสู่รถแห่
- เบสหาย ซับไม่ดี หรือห้องที่แย่
- เทคนิค จูนระบบเสียง ด้วยงบ 0บาท
- ครบเครื่อง เรื่องลำโพง PA
ยกตัวอย่างเช่นการ Delay ตู้ที่อยู่ในกลุ่มด้านข้าง ให้ช้าลง เปรียบเสมือนถอยตู้ออกไปให้ไกล เพื่อให้เสียงเดินทางมาถึงผู้ฟังช้าลง ณ ตำแหน่งกลางเวที เพื่อให้ความดังที่มากอยู่แล้ว ลดลง แต่ในขณะเดียวกัน กลับทำให้เสียง ณ ตำแหน่งด้านข้าง เกิดการเสริมความถี่กัน เนื่องจากคลื่นเสียงที่ออกจากตู้ลำโพงที่อยู่ตรงกลาง มาถึงพร้อมกับคลื่นเสียงของตู้ลำโพงที่อยู่ด้านข้าง จึงเกิดการเสริมความถี่กัน ทำให้ความดังเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่ระยะทางของตู้ลำโพงด้านข้างใกล้กว่าลำโพงที่อยู่ตรงกลาง
การวางตู้ลักษณะนี้ ต้องใช้โปรเซสเซอร์ในการเซตอัพตู้ลำโพงแต่ละใบ ให้ความดังเฉลี่ยใกล้เคียงกันทั่วบริเวณงาน
จากรูป เป็นการเเสดงความเข้มของเสียง บริเวณพื้นที่ต่างๆ ที่มีความดังในหน่วย dB ที่แตกต่างกันไป
รูปด้านบน เป็นการวางลำโพงแบบกลางเวที หรือ Center
เสียงจะเสริมกัน ครอบคลุมทั่วพื้นที่ แม้จะมีความดังที่ไม่มาก
รูปด้านล่าง เป็นการวางลำโพงแบบข้างเวที หรือ L R
เสียงดังมาก ณ บางตำแหน่ง แต่ก็มีการหักล้างกัน ณ บางตำแหน่งเช่นกัน
ขอบคุณรูปภาพจาก carvinaudio
ไม่ว่าจะเป็นการวางตู้ลำโพง Subwoofer ในลักษณะใด ต่างมีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกัน จึงควรคำนึงถึงความเหมาะสม ดึงเอาจุดเด่นของการวางตู้แต่ละแบบมาใช้ ประกอบกับลดจุดด้อยด้วยการจัดการระบบที่ดี คุณก็จะได้เสียงที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจแล้วครับ
ติดตามช่องทางต่างๆของ AT PROSOUND
ขอบคุณบทความจาก คุณนิติพล ชัยมั่น