เสียงดีกว่า? ลำโพงสตูดิโอแนวตั้ง จับวางแนวนอน
AT ออนไลน์ไกด์
ลำโพงสตูดิโอ แนวตั้ง จับวางนอน เสียงดีกว่าจริงหรือไม่
ลำโพงสตูดิโอ แนวตั้ง จับวางนอน เสียงดีกว่าจริงหรือไม่ ถ้าจะอธิบายสั้นๆเลย ก็คงแนะนำให้เปิด Manual ดูว่าลำโพงที่ซื้อมาวางแนวไหนได้บ้าง ก็วางไปตามนั้น ผู้ผลิตเค้าคิดมาให้เเล้วอย่าไปผืน แต่ก็ยังไม่วาย ยังเคยเเอบลองวางเเนวนอนดู เพื่อฟังความแตกต่าง คือ ขี้สงสัย เลือกไม่ถูก เอาเป็นว่าบทความนี้ จะคลายความสงสัยนี้ได้บ้างครับ ว่าทำไม? ลำโพงสตูดิโอที่ออกแบบมาให้วางแนวตั้ง จึงไม่สมควรเอามาวางในแนวนอนกัน
เริ่มต้นด้วย ลำโพงสตูดิโอ มอนิเตอร์ ลำโพงทำเพลง ลำโพงอัดเสียง หรือแล้วแต่จะเรียกกัน ส่วนมากที่เห็นกันบ่อยๆ จะเป็นลำโพง 2 ทาง หมายถึง มีดอกเสียงแหลม กับ ดอกเสียงต่ำ แยกออกจากกัน ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง 2ดอก ปล่อยเสียงออกมาไม่เหมือนกัน โดยแยกความถี่กันทำงาน โดยที่ดอกเล็กปล่อยเสียงสูง ส่วนดอกใหญ่ปล่อยเสียงต่ำ แต่เดี๋ยวก่อน แล้วสายสัญญาณที่เข้าไปยังลำโพงมอนิเตอร์ มีแค่สายเส้นเดียวไม่ใช่รึ? แล้วลำโพงแยกความถี่ได้อย่างไรละ?
(ภาพจำลองแสดงจุดร่วมความถี่ของเสียงสูงและเสียงต่ำเมื่อผ่าน Passive Crossover ที่ 3kHz)
อธิบายได้ว่า พอเสียงเข้ามายังตู้ลำโพง จะผ่านสิ่งหนึ่งคือ Passive crossover ซึ่งอยู่ภายในตู้ลำโพง เพื่อแยกสัญญาณเสียงสูงให้ไปหาดอกเสียงแหลม ส่วนสัญญาณเสียงต่ำให้ไปหาดอกเสียงต่ำ จุดที่แยกความถี่ เราเรียกว่า จุดตัดความถี่ ยกตัวอย่าง ตู้นี้ตัดความถี่ที่ 3kHz หมายความว่าเสียงที่สูงกว่า 3kHz ก็ไปที่ดอกเสียงแหลม ส่วนที่ต่ำกว่า 3kHz ก็ไปที่ดอกเสียงต่ำ แต่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทั้ง 2 ดอกจะมีจุดที่ร่วมความถี่กันอยู่บ้าง ในที่นี้คือ ความถี่ที่ 3kHz เเละความถี่ใกล้เคียงนั่นเอง
อ่านบความที่เกี่ยวข้อง
- Signal Flow เบื้องต้นในสตูดิโอ
- สายสัญญาณเสียง Balance และ Unbalance ในสตูดิโอ
- มิกซ์เสียงอย่างโปร เทคนิคเลือก”หูฟัง”สำหรับมือใหม่
(ภาพแสดง Polar Response ที่เปลี่ยนไปตามระยะความห่างของแหล่งกำเนิดเสียง)
(ขอบคุณรูปจาก http://forums.prosoundweb.com/)
ต่อมา จุดร่วมความถี่ช่วง 3kHz นี่แหละที่สร้างปัญหาเรื่องการฟังได้ เข้าสู่เรื่อง wave interference นิดนึง อธิบายสั้นๆว่า ถ้าแหล่งกำเนิดเสียง 2แหล่งกำเนิด ที่มีความถี่เสียงเดียวกัน เมื่ออยู่ห่างกัน Polar Response จะเกิดจุดที่ได้ยิน และจุดที่เสียงหาย ยิ่งแหล่งกำเนิดเสียงอยู่ห่างกันมาก ก็ยิ่งมีปัญหามากขึ้นตามไปด้วย
ทีนี้ถ้าให้ center ระหว่างดอกเสียงสูง กับดอกเสียงต่ำอยู่ห่างกันที่ 11 เซนติเมตร ซึ่งเป็นความยาวคลื่นของ 3kHz พอดี สิ่งที่ได้คือความถี่ที่ 3kHz จะเกิดการแทรกสอดของเสียง ระหว่างดอกเสียงสูง และดอกเสียงต่ำเป็นแบบในรูป สีแดง สีขาว คือเสียงที่ดัง ส่วนสีเขียวคือเสียงที่เบา
(ขอบคุณรูปจาก https://www.genelec.fi/sites/default/files/media/Studio%20monitors/Catalogues/monitorsetupguide_2017-lowres.pdf)
จากนั้นมาวาง studio monitor แล้วฟังกันครับ ถ้าวางแนวตั้ง สามารถโฟกัสช่วง On-axis มาที่หูได้เลย เวลาปรับเสียงขยับการฟังไปมา จากซ้ายไปขวา ก็ยังสามารถได้ยินเสียงที่สมบูรณ์อยู่(รูปซ้าย) ทีนี้ลองวางแนวนอน จะเห็นได้ว่า ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย ต้องอยู่ที่ On-axis เท่านั้น เพราะถ้าฟังไม่ตรงกับ On-axis เสียงบางความถี่อาจหายไปได้ ทำให้การฟังไม่สมบูรณ์ เรียกได้ว่าต้องวัดระยะทุกครั้งที่ปรับเสียงเลยทีเดียว ในกรณี Mixer Console ที่มีขนาดใหญ่ การขยับตัวในการปรับเสียงยิ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แน่นนอนว่างานมิกซ์เสียงในสตูดิโอ ความแม่นยำในการปรับเสียงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะผลงานที่ออกมา ผู้ฟังไม่ได้ฟังแค่ในห้องสตูดิโอที่ปรับเสียงเป็นแน่ การปรับเสียงจึงต้องการความแม่นยำเพื่อให้ได้เสียงที่เป็นมิตรกับการฟังในทุกๆที่นั่นเอง
ติดตามช่องทางต่างๆของ AT PROSOUND
บทความโดย เอกพัฒน์ มั่นคง