ลำโพง โฮมเธียเตอร์ ที่นิยมใช้กันเป็นอย่างไร

โฮมเธียเตอร์ ที่นิยมใช้กันเป็นอย่างไร

Home Theater อยากรู้ไหมว่า ลำโพง โฮมเธียเตอร์  ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันมันมีระบบเป็นอย่างไร ทำไมบางชุดมีลำโพง 3 ตัว บางชุดมี 6 ตัว ที่มีเยอะๆเพราะอะไร เพื่อเพิ่มความดังหรือเปล่า วันนี้เราจะมาดูกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

เลือกอ่านตามหัวข้อ

1.ระบบสเตอริโอ

1.1) ลำโพงแบบ 2.0

1.2) ลำโพงแบบ 2.1

2.ระบบเสียงเซอร์ราวด์

2.1 ลำโพง 4.1

2.2 ลำโพง 5.1

2.3 ลำโพง 7.1

3.ระบบระบบ Dolby Atmos  กับ โฮมเธียเตอร์ ภายในบ้าน 

สรุป

เรามาเริ่มตั้งแต่ ลำโพง 2 ตัว อย่าง สเตอริโอกันครับ

1.ระบบสเตอริโอ

ระบบเสียงพื้นฐานของลำโพงต่างๆนั้นหมายถึง ระบบที่มีลำโพง 2 ตัวแยกกันซ้ายและขวา พบได้มากมายเป็นระบบเริ่มต้นของระบบเสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 2.1, 4.1, 5.1, 7.1 ต่างเริ่มมาจาก 2.0 ที่เป็นสเตอริโอทั้งสิ้น

ซึ่งในสเตอริโอนั้นมีลำโพงอยู่ 2 แบบ คือ

 

1.1) ลำโพงแบบ 2.0

ประกอบไปด้วย ลำโพงที่แยกกันซ้ายขวา ทำให้การฟังมีมิติเสียงทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ระบบนี้มีข้อดีคือ การติดตั้งค่อนข้างง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อนอะไร เห็นได้จากลำโพงคอม หรือลำโพงฟังเพลงที่หาซื้อได้ง่าย เหมาะสำหรับพื้นที่ห้องที่มีขนาดเล็ก ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการวางลำโพง แถมได้เสียงที่ดีลงตัวกับขนาดห้องอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

1.2) ลำโพงแบบ 2.1

เหมือนกับลำโพง 2.0 เลย เพียงแต่มีการเพิ่มลำโพงซับวูฟเฟอร์ ซึ่งใช้ขับเสียงเบสโดยเฉพาะ ทำให้เราได้ยินย่านเสียงเบสที่ดูอื่มขึ้นมามาก มีมิติเพิ่มขึ้น เหมาะกับการเป็นลำโพง Home Theater มากขึ้น เสียงจะมีความแตกต่างชัดเจนกับระบบ 2.0 มีพลังมากกว่า

 

 

 

 

 

 

คำว่า 2.1 โดยทั่วไปหมายถึง ระบบสเตอริโอที่สามารถกำหนดการเบี่ยงเบนความถีที่ต่ำกว่า 100 Hz ไปยังซับวูฟเฟอร์โดยเฉพาะ แทนที่จะเป็นลำโพงซ้ายและขวาพร้อมกับความถี่อื่นทั้งหมด โดยทั่วไปแล้วระบบ 2.1 ใช้การบันทึกเพียงสองแทร็กเสียงซ้ายและขวาเท่านั้น

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

สงสัยไหมครับว่า (.1) ที่เพิ่มเข้ามานั้นมันคืออะไร

  • .1 หมายถึงซับวูฟเฟอร์ ซึ่งซับวูฟเฟอร์นี้จะเป็นแบบพาสซีฟ
  • ส่วนตัวเลข อย่าง 2.0, 2.1, 5.1, 7.1 นั้น แต่ละตัวเลข มาจาก จำนวนช่องสัญญาณเสียงโดยอ้างอิงจากมาตรฐานการบันทึก

 

 

2.ระบบเสียงเซอร์ราวด์

ระบบเสียงเซอร์ราวด์ หรือ ระบบเสียงแบบรอบทิศทาง มีลักษณะเป็นอย่างไร เราจะมาดูกัน ระบบเสียงเซอร์ราวด์นั้น เป็นระบบที่พัฒนาให้มีความซับซ้อนขึ้นกว่าระบบสเตอร์ริโอ กล่าวคือ เพื่อให้เสียงเป็นระบบรอบทิศทางได้นั้น การที่มีลำโพงเพียง 2 ตัว ซ้ายขวา ไม่เพียงพอ จึงต้องเพิ่มจำนวนลำโพงในทิศทางต่างๆ ให้เสียงครอบคลุมพิ้นที่ เป็นไปตามลำดับ และการที่จะทำให้เป็นระบบเซอร์ราวด์ที่มีประสิทธิภาพ จะต้องมีเคื่องเล่นที่รองรับกับระบบเซอร์ราวด์ด้วย การเลือกซื้อเลื่อเล่นจึงสำคัญ ต้องดูที่สเปคที่มีมาให้ของเครื่องเล่นนั้นๆ ว่ารองรับระบบนี้หรือไม่

ระบบเสียงแบบเซอร์ราวด์ สามารถแยกออกมาเป็นระบบต่างๆได้ ดังนี้

 

 

2.1 ลำโพง 4.1

คือ พัฒนาจากระบบสเตอร์ริโอ 2.1 คือแต่เดิมเป็น สเตอริโอ ที่มี การแยกเสียง เพียงซ้าย – ขวา พร้อมกับซับวูฟเฟอร์ เสียงเบส การที่จะทำให้เป็นเซอร์ราวด์ได้จึงต้องเพิ่มลำโพง 2 ตัว ซ้าย ขวาอีก ทางด้านหลัง จึงเกิดเป็นระบบเสียงที่รอบทิศทาง พร้อมกับเพิ่มซับวูฟเฟอร์ ที่ขับย่านเสียงเบส เข้าไป ทำให้มีมิติเสียง ที่แยกกันชัดเจน ซึ่งการใช้งาน เจ้าระบบ 4.1 นี้ นิยมนำมาทำเป็นโฮมเทียร์เตอร์ ในบ้าน เปลี่ยนห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นเป็นโรงหนังเล็กๆ ภายในบ้าน

 

 

 

 

 

 

2.2 ลำโพง 5.1

 เป็นระบบเซอร์ราวด์มัลติแชนเนล ที่พัฒนามาจาก 4.1 มีลำโพงซ้ายขวาด้านหน้า และ ลำโพงเซอร์ราวด์ที่ด้านข้าง (SL,SR) ทำหน้าที่ถ่ายทอดเสียงเอฟเฟ็ค ที่ด้านข้างคลบคลุมไปถึงด้านหลังของคนฟัง การที่จะทำได้ดีเต็มประสิทธิภาพ นั้นขึ้นอยู่กับขนาดห้อง ถ้าห้องกว้างใหญ่ การทำงานของลำโพงเซอร์ราวด์อาจทำให้เกินความสามารถของมัน ควรเพิ่มจำนวนลำโพงในกรณดังกล่าว แต่การวางตำแหน่งของลำโพงเซอร์ราวด์อาจจะไปวางไว้ด้านหลังก็ได้ และมีลำโพงส่วนกลาง หรือ ลำโพง Center  จำนวนลำโพงทั้งหมดมี 5 ตัว รวมกับซับวูฟเฟอร์ก็เป็น 6 ตัวพอดี ระบบนี้จึงมีเียง ซ้าย – ขวา ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง และมีเสียงตรงกลางมาเพิ่มมิติเข้าไปอีก จึงทำให้ได้เสียงที่ีความเซอร์ราวด์เพิ่มขึ้นไปอีก ทำให้ได้อรรถรสเพิ่มขึ้น

 

 

 

 

2.3 ลำโพง 7.1

เป็นระบบเซอร์ราวด์มัลติแชนแนลที่พัฒนามาจากลำโพงแบบ 5.1 แชนแนล มี ลำโพงซ้าย – ขวา ในส่วนของด้านหน้า 2 ตัว  ลำโพงเซอร์ราวด์ ซ้าย-ขวาด้านข้าง 2 ตัว ลำโพงส่วนกลาง 1 ตัว ที่ต่างจาก 5.1คือ เพิ่มลำโพงเซอร์ราวด์แบ็ค เข้ามาอีก 1 คู่ (SBL, SBR) ลำโพงทั้งหมดมีถึง 7 ตัว และเพิ่มซับวูฟเฟอร์ลงไป ด้วยลำโพงเซอร์ราวด์แบ็ค ที่เพิ่มเข้ามา สร้างเสียงเอฟเฟ็คที่ด้านหลัง ช่วยเติมช่องที่ว่างอยู่ ระบบที่เต็มรูปแบบ ทำให้สามารถแยกแหล่งเสียงได้ชัดเจนมาก เมื่อเราดูหนัง หรือฟังเพลงก็จะได้อรรถรถมากขึ้นไปด้วย ยิ่งการดูหนัง เราจะสามารถได้ยินเสียงต่างๆ ที่ทางผู้ผลิตให้มา อย่างเช่น เสียงน้ำไหลทางด้านหลัง เสียงวิ่งทางด้านซ้าย การเดินจากซ้ายไปขวา หรือเดินไปรอบๆตัวเรา เหมือนกับเราเข้าไปอยู่ท่ามกลางเสีองเหล่านั้นเลยทีเดียว

 

 

 

 

 

ระบบระบบ Dolby Atmos  กับ โฮมเธียร์เตอร์ ภายในบ้าน 

การจะนำระบบ Dolby Atmos มาใช้กับ โฮมเธียร์เตอร์ ภายในบ้าน  ชุดลำโพงที่แนะนำ ก็จะเป็น 5.1 แชนแนล และ 7.1 แชนแนล จะเหมาะที่สุดที่จะทำให้บ้านของคุณเปรียบเสมือนโรงหนัง ที่มีระบบ 3 มิติ ทำให้การฟังเสียงจากภาพยนตร์ได้อรรถรส ความตื่นเต้น  เหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ และสมบูรณ์แบบที่สุด

การติดตั้งระบบ Dolby Atmos ไว้ภายในบ้าน มีอยู 3 วิธี ดังนี้

1.การฝังลำโพงไว้บนฝ้า

วิธีนี้เป็นการฝังลำโพง height channel ไว้บนฝ้า เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ก็ต้องแลกมากับการเจาะฝ้า เพื่อเก็บตัวลำโพงไว้ข้างใน วิธีนี้จะได้ลำโพงที่จำกัดองศา ในการติดตั้งจึงต้องระวังเรื่องตำแหน่งลำโพง เพราะถ้าวางตำแหน่งผิด องศาลำโพงจะคลาดเคลื่อนไปด้วย ทำให้การรับฟังไม่ดีเท่าที่ควร

2.แบบยิงสะท้อนฝ้าลงมา

วิธีนี้เป็นการวางลำโพง height channel ไว้บนพื้น โดยมีลำโพงวางเฉียงแล้วยิงเสียงขึ้นไปบนฝ้าแล้วเกิดการสะท้อนกลับลงมา วิธีนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เพราไม่ต้องติดตั้งลำโพงไว้บนฝ้า เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการ เจาะผนัง  ต้องการความรวดเร็ว ในการใช้งาน ง่ายใขการ  วิธีนี้เมื่อวางลำโพงแล้วยิงสะท้อนลงมาจากฝ้า ไปยังตำแหน่งคนที่นั่งฟัง ได้อย่างถูกวิธี จะทำให้ได้เสียงที่สมบูรณ์แบบ ถูกต้อง เต็มประสิทธิภาพ

3.แบบแขวนลำโพง

วิธีนี้เป็นวิธีที่ดู เหมาะกับการติดตั้ง ลำโพงไว้บนเพดานด้วยที่เป็นระบบการแขวน จึงสามารถขยับหมุนคัวลำโดพงด้านบนได้ เพื่อให้ตรงกับตำแหน่งที่คนนั่งฟัง ข้อจำกัดที่เห็นจากวิธีนี้คือ เนื่องจากเป็นแบบแขวนลำโพงด้านบน  จึงดูไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย เหมือนกับแบบแรกที่ฝังไปในฝ้า แต่วิธีนี้ เป็นวิธีที่ดีที่สุด ใน 3วิธีที่กล่าวมา

ลำโพง Home Theater ในระบบ dolby atmos มีดังนี้

ลำโพง 5.1.2

คือการพัฒนาจาก ลำโพง 5.1เพียงแต่ เพิ่มลำโพง Speaker อีก 2 ตัว ไว้ตำแหน่งด้านบน  เป็น ซ้าย และขวา

ลำโพง 5.1.4

คือการพัฒนาจาก ลำโพง 5.1เพียงแต่ เพิ่มลำโพง Speaker อีก 4 ตัว ไว้ตำแหน่งด้านบน  เป็น ซ้าย 2 ตัว และขวา 2 ตัว

ลำโพง 7.1.2

คือ การพัฒนาจากลำโพง 7.1 โดยการเพิ่มลำโพง Speaker อีก 2 ตัว ไว้ตำแหน่งด้านบน ซ้าย และขวา

ลำโพง 7.1.4

คือ การพัฒนาจากลำโพง 7.1 โดยการเพิ่มลำโพง Speaker อีก 4 ตัว ไว้ตำแหน่งด้านบน ซ้าย และขวา

ลำโพง 9.1.2

เป็นรูปแบบการเซ็ตอัพ 9.1 ch ที่พัฒนามาจากระบบ 7.1 ch โดยเพิ่มลำโพงในตำแหน่ง  front wide channel ที่ด้านหน้าขึ้นมาอีก 2 ตัว และเพิ่มลำโพง height channel อีก 2 ตัว ไว้ตำแหน่งด้านบน ซ้าย และขวา

 

การจะใช้งานลำโพงเซอร์ราวด์ให้ได้ประสิทธิภาพตามจำนวนแชนแนลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 2.1  หรือ 7.1 ก็ดี จำนวนแทร็กของไฟล์เสียงก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน 

 

 

สรุป

จะเห็นว่า จำนวนลำโพงที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่เพื่อให้เสียงดังขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ลำโพงแต่ละตัวที่เพิ่มเข้ามานั้น มีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป และยิ่งเพิ่มจำนวนลำโพงมากเท่าไร ระบบเสียง Home Theater เซอร์ราวด์ก็จะมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น แต่การจะทำให้เสียงสมบูรณ์แบบ ก็ขึ้นอยู่กับขนาดห้องด้วยเช่นกัน เช่น ถ้าขนาดห้องไม่ใหญ่  การใช้ ลำโพง 2.1 หรือ 5.1 ก็เพียงพอที่จะถ่ายทอดเสียงที่สมบูรณ์แบบแล้ว ทั้งนี้เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกินความจำเป็น แต่ถ้าใครต้องการ หรือมีงบมากพอ ก็จัดตามความต้องการได้เลยครับ

ขอบคุณรูปภาพจาก Dolby

ติดตามช่องทางต่างๆของ AT PROSOUND

FACEBOOK ATPROSOUND

YOUTUBE ATPROSOUND

 

ซาวด์บาร์

AUDAC IMEO1

฿14,643.00฿14,658.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ลำโพงตั้งโต๊ะ

Klipsch R-51PM x1 R-120SW x1

฿36,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ซาวด์บาร์

JBL Bar 3.1 Sound Bar Speaker

฿19,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ซาวด์บาร์

Klipsch Cinema 600 5.1

฿39,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ซาวด์บาร์

JBL Bar 5.1 Sound Bar Speaker

฿19,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

 


สินค้าแนะนำตามความสนใจ

สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿79.00฿7,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿55.00฿5,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
฿135.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿44.00฿3,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
฿145.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿93.00฿7,400.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿34.00฿2,700.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿71.00฿5,700.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าที่เกี่ยวข้อง


บทความที่คุณอาจชอบ ในหมวดหมู่เดียวกัน

ใส่ความเห็น