Showing 1–24 of 253 results


สินค้ามีรุ่นทดแทน
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿6,990.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้ามีรุ่นทดแทน
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿3,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
฿2,480.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿3,600.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
฿2,170.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
-10%
฿15,660.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
-10%
฿22,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿2,800.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿1,910.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿2,290.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
฿6,200.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿9,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿920.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
฿14,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿17,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿5,490.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿9,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿12,790.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

บทความที่เกี่ยวข้อง

รวมผลงานติดตั้งโดย ATผลงานทั้งหมด


มิกเซอร์อนาล็อก (Analog Mixer)

อนาล็อกมิกซ์คืออะไร? ใช้งานแบบไหน?  มีวิธีเลือกอย่างไร? ไปดูกัน


มิกเซอร์อนาล็อก

มิกเซอร์อนาล็อก ( Analog Mixer ) หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ( Electronic ) ที่ใช้ในการผสมสัญญาณเสียงแบบอนาล็อก ( Analog ) ทำหน้าที่รับสัญญาณเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียง ( Source ) เข้ามาทางช่องสัญญาณขาเข้า ( Input ) จากหลาย ๆ ช่องสัญญาณมารวมไว้ด้วยกัน

เพื่อปรับแต่งสัญญาณเสียงให้เกิดโทนเสียง ( Tone ) และ บาลานซ์ ( Balance ) ตามที่ต้องการ ก่อนจะปล่อยสัญญาณเสียงออกไป ( Output ) ยังเครื่องขยายเสียง ( Power Amp ) เพื่อส่งต่อไปยังลำโพง ( Speaker ) ผ่านสายลำโพง หรือ สายสัญญาณต่อไป ซึ่งทั้งระบบ การสั่งออกและรับสัญญาณเสียงเข้าจะอยู่ในรูปแบบ ไฟฟ้า ทั้งหมด


มิกซ์อนาล็อก ( Analog Mixer ) คือ มิกเซอร์ที่เกิดขึ้นมาก่อนมิกเซอร์ดิจิตอล ( Digital Mixer ) จะมีการปรับแต่งทุกอย่างด้วยมือ มีข้อจำกัดในการใช้งานในด้านความไม่สะดวกสะบายในการใช้งาน ไม่สามารถบันทึกการตั้งค่าได้ ไม่มีซอฟแวร์, เครื่องปรุงแต่งเสียงในตัว เหมือนกับ มิกเซอร์ดิจิตอล

จำเป็นต้องต่อพ่วงอุปกรณ์แยกต่าง ๆ เอง แต่มีข้อดีคือ สามารถเข้าใจวิธีการทำงานได้ง่าย และ เลือกอุปกรณ์ปรุงเสียง ได้ด้วยตนเองตามใจชอบ

การประกอบของ มิกซ์อนาล็อก ( Analog Mixer ) จะไม่มีความสลับซับซ้อน หลักการทำงาน จะมีความคล้ายคลึงกันในแทบจะทุกรุ่น โดยมีส่วนของช่องสัญญาณขาเข้า ( Input ) ส่วนของการปรับแต่ง ( Gain , EQ , Auxiliary , Pan , Mute ) ส่วนควบคุมความดัง ( Fader ) ส่วนของการวัดสัญญาณ ( Meter ) และส่วนของช่องสัญญาณขาออก ( Output ) บางรุ่นในมิกซ์อนาล็อกอาจมีเอฟเฟค ( Effect ) ในตัวแถมมาให้ด้วย

มิกซ์อนาล็อก ( Analog Mixer ) นอกจากจะใช้ในงานแสดงสดแล้ว ( Live Sound ) ยังสามารถใช้งานในด้านงานอัดเสียง ( Record ) ในสตูดิโอ ( Studio ) การประชาสัมพันธ์ ( Public address system ) งานคอนเสิร์ต ( Concert ) งานแพร่กระจายเสียงต่าง ๆ ( Broadcasting ) ได้อีกด้วย


มิกเซอร์อนาล็อก


มิกเซอร์อนาล็อก มีจุดเด่นกว่า มิกเซอร์ดิจิตอลอย่างไร


  • เสียงที่ได้มีความอุ่น (Warm) และเป็นธรรมชาติมากกว่า เนื่องจากการประมวลผลสัญญาณแบบอนาล็อก ไม่ผ่านการแปลงเป็นดิจิตอลและประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์
  • การใช้งานง่ายและตรงไปตรงมากว่า ปุ่มและฟังก์ชันต่างๆ อยู่บนตัวมิกเซอร์ สามารถปรับแต่งได้ทันที ไม่ต้องเรียกเมนูซับซ้อน
  • มีความทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน เนื่องจากวงจรอิเล็กทรอนิกส์ไม่ซับซ้อน ไม่มีอุปกรณ์ดิจิตอลที่อาจเสียหายได้ง่าย
  • ราคาย่อมเยากว่ามิกเซอร์ดิจิตอล ในขนาดและจำนวนช่องสัญญาณที่เทียบเท่ากัน
  • ไม่มีความล่าช้าของเสียง (latency) เนื่องจากไม่ต้องผ่านการประมวลผลหรือ converters



ประเภทของ อนาล็อกมิกเซอร์


  • มิกเซอร์สำหรับสตูดิโอ (Studio Mixers) มีขนาดใหญ่ จำนวนช่องสัญญาณมาก ใช้สำหรับบันทึกเสียงและผสมเสียงคุณภาพสูงในสตูดิโอ มีฟังก์ชันปรับแต่งเสียงละเอียด เหมาะสำหรับงาน post-production
  • มิกเซอร์สำหรับเวที (Live Sound Mixers) มีขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก ทนทานต่อการใช้งานหนัก ใช้สำหรับผสมเสียงสดและควบคุมเสียงบนเวที เช่น คอนเสิร์ต ละครเวที มีฟังก์ชันพื้นฐานสำหรับปรับแต่งเสียงอย่างรวดเร็ว
  • มิกเซอร์สำหรับกระจายเสียง (Broadcast Mixers) ออกแบบมาสำหรับงานออกอากาศทางวิทยุและโทรทัศน์โดยเฉพาะ มีระบบสื่อสารภายในและป้องกันเสียงย้อนกลับ รองรับสัญญาณเสียงได้หลายประเภท เหมาะสำหรับห้องส่งที่ต้องควบคุมคุณภาพและเวลาออกอากาศ
  • มิกเซอร์สำหรับพอดแคสต์ (Podcast Mixers) มีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับสตูดิโอพอดแคสต์ขนาดเล็ก มีช่องต่อไมค์และสัญญาณมัลติมีเดียครบครัน มีฟังก์ชันบันทึกเสียงแยกแทร็กและเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว
  • มิกเซอร์สำหรับดีเจ (DJ Mixers) ออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงของดีเจโดยเฉพาะ มีช่องต่อสัญญาณแบบ Phono และ Line level มาพร้อม Crossfader สำหรับการ mixing และอาจมีเอฟเฟกต์ในตัวสำหรับการสร้างลูกเล่น เหมาะสำหรับดีเจที่ต้องการคุณภาพเสียงดีและฟังก์ชันเฉพาะทาง


มิกซ์อนาล็อก


การเลือกมิกซ์อนาล็อกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้


  • จำนวนช่องสัญญาณ (Input Channels) ควรเลือกมิกเซอร์ที่มีจำนวนช่องสัญญาณเพียงพอกับอุปกรณ์ที่ต้องการใช้งาน เช่น ไมโครโฟน เครื่องดนตรี หรือเครื่องเล่นต่างๆ โดยอาจเผื่อช่องสำรองไว้สำหรับการขยายในอนาคตด้วย
  • คุณภาพของวงจรภายใน (Circuit Quality) ควรเลือกมิกเซอร์ที่ใช้วงจรและอุปกรณ์คุณภาพดี เพื่อให้ได้เสียงที่มีความเป็นธรรมชาติ มีสัญญาณรบกวนต่ำ (low noise) และไม่เกิดการผิดเพี้ยนของเสียง (distortion) โดยอาจพิจารณาจากยี่ห้อที่มีชื่อเสียงและมาตรฐานการผลิตที่ดี
  • ฟังก์ชันการใช้งาน (Functions) ควรเลือกมิกเซอร์ที่มีฟังก์ชันครบถ้วนตามความต้องการ เช่น ปุ่มปรับความดัง (Faders) ปุ่ม Solo/Mute ปุ่ม EQ และ Aux Sends รวมถึงมิเตอร์แสดงระดับสัญญาณที่อ่านง่าย นอกจากนี้ ควรพิจารณาช่องต่อสัญญาณภายนอก (I/O) ที่ครบครัน เช่น Stereo Output, Monitor Output, Headphone Output เป็นต้น
  • ความทนทานและคุณภาพการผลิต (Build Quality) ควรเลือกมิกเซอร์ที่มีโครงสร้างแข็งแรง วัสดุคุณภาพดี ทนต่อการใช้งานและการเคลื่อนย้ายบ่อยๆ นอกจากนี้ อาจเลือกรุ่นที่มีระบบป้องกันเสียง Feedback หรือวงจรป้องกันไฟฟ้ากระชากด้วย
  • งบประมาณ (Budget) ควรพิจารณาเลือกมิกเซอร์ให้เหมาะสมกับงบประมาณ โดยไม่จำเป็นต้องเลือกรุ่นที่แพงที่สุด แต่ควรเน้นคุณภาพที่ดีในราคาที่ยอมรับได้ อาจศึกษาข้อมูลจากรีวิวหรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญประกอบการตัดสินใจ


มิกซ์อนาล็อก


วิธีการใช้งานมิกเซอร์อนาล็อกอาจแตกต่างกันไปตามแบรนด์ แต่โดยทั่วไปแล้วมีขั้นตอนพื้นฐานดังนี้


  • เชื่อมต่ออุปกรณ์เสียงเข้ากับช่องสัญญาณ (Input Channels) ต่างๆ ของมิกเซอร์ เช่น ต่อไมโครโฟนเข้ากับช่อง XLR หรือต่อเครื่องดนตรีเข้ากับช่อง Line ปรับสวิตช์เลือกประเภทสัญญาณให้ถูกต้อง (Mic/Line/Instrument)
  • เปิดเครื่องมิกเซอร์และปรับระดับ Gain ของแต่ละช่องสัญญาณให้เหมาะสม โดยใช้มิเตอร์วัดระดับเสียงเป็นตัวช่วย ระวังอย่าให้สัญญาณ Peak จนเกินขีดจำกัด (Clipping) เพราะจะทำให้เสียงผิดเพี้ยนได้
  • ปรับความสมดุลของย่านความถี่ด้วยอีควอไลเซอร์ (EQ) ของแต่ละช่อง เพื่อให้ได้เสียงตามต้องการ เช่น เพิ่มความชัดของเสียงร้องด้วยการเพิ่ม High Frequency หรือลดเสียงทุ้มรบกวนด้วยการลด Low Frequency
  • ปรับระดับสัญญาณส่งออก (Aux Sends) ไปยังอุปกรณ์เอฟเฟกต์ภายนอก เช่น Reverb หรือ Delay โดยคำนึงถึงสมดุลระหว่างเสียงต้นฉบับ (Dry) และเสียงที่ผ่านเอฟเฟกต์ (Wet)
  • ปรับสมดุลระดับเสียงของแต่ละช่อง (Channel Fader) ให้เหมาะสม และกำหนดจุดส่งออกสัญญาณ เช่น ส่งออกไปที่ช่อง Main Output สำหรับลำโพงหลัก หรือส่งออกไปที่ช่อง Monitor สำหรับศิลปินบนเวที
  • ใช้ Master Fader ปรับระดับเสียงรวมทั้งหมด และใช้มิเตอร์สังเกตระดับสัญญาณขาออก หากสัญญาณออกแรงเกินไป อาจต้องปรับลดระดับเสียงลงบ้าง เพื่อป้องกันเสียงผิดเพี้ยน
  • ตรวจสอบคุณภาพเสียงด้วยหูฟัง (Headphones) หรือลำโพงมอนิเตอร์ (Studio Monitors) หากพบปัญหา เช่น เสียงเบา เสียงผิดเพี้ยน หรือเสียงไม่สมดุล ให้แก้ไขด้วยการปรับที่มิกเซอร์ตามความเหมาะสม

หรือดูได้จากคลิปวีดีโอการใช้งานมิกซ์อนาล็อกนี้




อนาล็อกมิกเซอร์ ยี่ห้อไหนดี


สำหรับมิกเซออนาล็อกที่เป็นแบรนด์ชั้นนำ ขอแนะนำยี่ห้อดังต่อไปนี้ครับ

Analog Mixer รุ่นยอดนิยม


7 อันดับ อนาล็อกมิกเซอร์ยี่ห้อไหนดี ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปีนี้มีรุ่นอะไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

สรุป แต่ถ้ายังเลือกไม่ถูกอีก สามารถรับคำเเนะนำ อนาล็อกมิกเซอร์ โดย ผู้เชี่ยวชาญ ได้ที่ AT Prosound เลยครับผม