มารู้จักกับ Polar pattern รูปแบบการรับเสียงของไมโครโฟน กัน!!
ทฤษฎีเสียง, อื่นๆ
Polar pattern
Polar pattern หรือในอีกชื่อ Directional Characteristics หมายถึง ความสามารถในการรับเสียงของไมค์จากทิศทางต่างๆ หรือเรียกได้ว่า เป็นมุมรับสัญญาณของ ไมโครโฟน ที่จะตอบสนองต่อเสียงที่เข้ามา ตามค่าความแรงของสัญญาณ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรู้และเข้าใจเพื่อที่จะวางไมค์ในตำแหน่งที่ถูกต้องและเหมาะสมกับลักษณะของไมค์แต่ละตัว เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเสียงที่ดีที่สุด
แบ่งชนิดของไมค์ตาม Polar pattern ออกเป็น 3 ชนิด โดยแต่ละชนิดจะมีสักษณะเฉพาะตัว ที่แตกต่างกัน ดังนี้
- คาร์ดิออยด์ (Cardioid)
- ไบ-ไดเร็คชันแนล (Bi-directional)
- ออมนิ ไดเร็คชันแนล (Omnidirectional)
เรามาดูรายละเอียดแต่ละชนิดกันครับ เริ่มกันที่
- คาร์ดิออยด์ (Cardioid)
เรียกอีกชื่อว่า Unidirectional ซื่งจะรับสัญญาณได้ดีที่สุดทางด้านหน้าไมโครโฟน หรือรับได้ดีที่สุดเพียงทิศทางเดียว เสียงที่มาจากด้านอื่นๆ จะเข้าไปได้น้อยกว่าด้านหน้า ทำให้ช่วยตัดเสียงอื่นๆ ออกได้ด้วย เป็นข้อดีของไมค์ที่ใช้รูปแบบนี้ แต่ก็อาจจะเกิดการวกกลับของเสียง ที่ไปสะท้อนกับสิ่งอื่น แล้วกลับมาที่ด้านหน้าของ ไมโครโฟน ทำให้เกิดปัญหาเสียงหอนออกลำโพงได้
ในส่วนของ การรับเสียงแบบ Cardioid นี้ ยังแบ่งย่อยได้อีก 4 แบบ จากทิศทางการรับเสียงที่แตกต่างกันเล็กน้อย
1.คาร์ดิออยด์ (Cardioid)
เป็นรูปแบบการรับสัญญาณที่นิยมใช้มากที่สุด รัศมีการรับจะรับเสียงที่มากด้านหน้าส่วนใหญ่ ช่วยตัดเสียงสิ่งแวดล้อมที่ไม่ต้องการ และมีเสียงแทรกจากการขยับของไมโครโฟนค่อนข้างน้อย เหมาะสำหรับใช้บนเวทีที่มีเสียงดัง นิยมใช้กับไมโครโฟนช็อตกันและไมโครโฟนติดหัวกล้อง เช่น SR-PMIC2, SR-TM7, SR-M500 เป็นต้น รัศมีการรับจะมีลักษณะเป็นรูปหัวใจ
2.ซูเปอร์คาร์ดิออยด์ (Subcardioid หรือ Widecardioid)
เน้นรับเสียงจากด้านหน้าเช่นเดียวกับ Cardioid แต่บริเวณรับเสียงจะแคบกว่า ทำให้เสียงรบกวนน้อยลงกว่าเดิม แต่ไมโครโฟนชนิดนี้จะรับเสียงจาด้านหลัง ไมโครโฟน ด้วย จึงต้องระมัดรวังในการวางลำโพงมอนิเตอร์ เหมาะสำหรับใช้เพื่ออัดเสียงจากแหล่งเดียวในสถานที่ที่เสียงดังมากๆ นิยมใช้กับไมโครโฟนช็อตกันและไมโครโฟนติดหัวกล้อง เช่น SR-PMIC1, Vmic, Vmic Recorder เป็นต้น
3.ไฮเปอร์ คาร์ดิออยด์ (Hyper Cardioid)
รัศมีการรับจะคล้าย คาร์ดิออยด์ และซูเปอร์คาร์ดิออยด์ แต่มุมการรับสัญญาณก็จะแคบลงมาอีก นิยมใช้ในการแสดงสดเพื่อจับเสียงเครื่องดนตรีที่มีความเป็นอะคูสติกมากๆ ซึ่งด้านหลังของไมโครโฟนสัญญาณจะลดลงไป 6dB
4.อัลตร้า คาร์ดิออยด์ (Ultracardioid)
มุมในการรับสัญญาณจะแคบมากๆ ส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบการรับสัญญาณของไมโครโฟนแบบ ช็อตกัน (Short Gun ) ใช้ในการเก็บเสียงเฉพาะจุด ซึ่งต้องการความมีทิศทางของ ไมโครโฟน ที่สูงมากๆ ซึ่งเสียงจากด้านข้างแทบจะไม่รั้วเข้ามาในไมโครโฟนเลย งานที่เหมาะกับไมค์ที่เป็นแบบ ช็อตกัน (Short Gun ) ก็จะมี บันทึกสาระคดีสัตว์ในป่า . ใช้รับเสียงบรรยากาศ , ถ่ายทอดสดกีฬา , การแสดงละครเวที เป็นต้น
2.ไบ-ไดเร็คชันแนล (Bi-directional)
รับเสียง 2 ด้าน คือ ด้านหน้าและด้านหลัง หรือรู้จักการในชื่อ Figure-8 (เพราะเหมือนเลข 8)สามารถรับสัญญาณเสียงได้สองทิศทางคือ ด้านหน้า และด้านหลัง ของ ไมโครโฟน กลับเฟส (Phase) กัน 180 องศา เสียงที่เข้ามาทางด้านข้างของไมโครโฟนจะถูกหักล้างออกหมด โดยใช้หลักการที่เรียกว่า เพลสเชอร์ กราเดียน (Pressure Gradient)
3.ออมนิไดเร็คชันแนล (Omnidirectional)
รับเสียงจากทุกด้าน บางคนจึงเรียก Nondirectional ไมโครโฟน ชนิดนี้สามารถรับเสียงได้เท่ากันในทุกทิศทาง จึงไม่จำเป็นต้องหันไมโครโฟนไปยังทิศที่ต้องการรับเสียง เหมาะสำหรับเป็นไมค์ติดปกเสื้อ ข้อเสียคือไม่สามารถหันไมโครโฟนหลบเสียงรบกวนใดๆ ได้เลย
อ่านมาจนจบแล้ว เราจะเห็นว่าไมค์แต่ละตัว แต่ละแบบก็มีความแตกต่างกัน หวังว่าบทความนนี้อาจช่วยให้ผู้ที่ต้องการเลือกซื้อไมค์โครโฟนได้ตรงกับที่ต้องการนะครับ สวัสดีครับ
อ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องได้ที่
- การทำงาน ไมโครโฟน
- ไมค์ลอย จุดสิ้นสุดเเละการปรับตัว
- ไมค์ร้องเพลง ตัวไหนดี ที่ “ใช่” สำหรับคุณ
- สายไมค์ & สายกีต้าร์ ความต่างที่สัมผัสได้
- ไมค์ไร้สาย คลื่นดิจิตอล เรื่องใหม่ในวงการเสียง
- “กำหัวไมค์” “อีกหนึ่งสาเหตุยอดนิยมที่ทำให้ ไมค์หอนง่ายขึ้น”
- ไมค์อัดเสียง ชนิดริบบอน กับ ไมโครโฟน ไดนามิก ต่างกันอย่างไร
- ไมค์ อัดเสียง หรือ ไมโครโฟนคอนเดนเซอร์ เข้าใจได้ ไม่ยาก 2020