สายไมค์ & สายกีต้าร์ ความต่างที่สัมผัสได้
AT ออนไลน์ไกด์, ดนตรี, ทฤษฎีเสียง, พื้นฐานระบบแสงเวทีและอุปกรณ์, อื่นๆ, เปรียบเทียบสินค้า
อีกหนึ่งบทความที่น่าสนใจวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ สายกีต้าร์ อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่นักดนตรีหรือผู้ที่อยู่ในวงการเสียงให้ความสำคัญ โดยเฉพาะมือกีต้าร์ ซึ่งแน่นอนว่า หากไม่มีสิ่งที่น่าสนใจ AT คงไม่หยิบยกเรื่องนี้มาเขียนบทความแน่นอนครับ
สายสัญญาณเสียง หนึ่งในอุปกรณ์ที่คนทำเสียงต้องคำนึง วันนี้ AT จะนำสายสัญญาณ 2 รูปแบบ มาเปรียบเทียบให้ผู้อ่าน ได้ลองพิจารณาว่าระหว่างสายสัญญาณที่ใช้งานกับไมโครโฟน กับสายที่เป็น สายกีต้าร์ หรือสาย Instrument มีความเหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งในเนื้อหาวันนี้ เราจะมาดูการนำไฟฟ้า ความต้านทาน ค่าประจุไฟฟ้า และสุดท้ายเราจะมาสรุปกันว่า ควรเลือกใช้สายแบบไหน ถึงจะตอบโจทย์การใช้งานของเราที่สุด
แต่ก่อนที่จะไปดูคุณลักษณะของสายสัญญาณทั้ง 2 แบบ แนะนำให้ผู้อ่าน ลองศึกษาบทความตาม Link ด้านล่าง เพื่อความเข้าใจที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นครับ
หลายคนเคยใช้สายสัญญาณในระบบเสียง แน่นอนว่าสายสัญญาณดังกล่าว ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการนำไฟฟ้า แต่หลาย ๆ ท่าน ก็อาจจะเคยตั้งคำถามเกี่ยวกับสายสัญญาณที่ใช้สำหรับกีต้าร์ มันดีกว่าสายไมค์ทั่วไปจริงหรือ หากใช้สายไมค์แทนสายกีต้าร์จะใช้งานได้หรือไม่
วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันครับ โดยในวันนี้เราจะมาเปรียบเทียบสายสัญญาณ 2 รุ่น 2 รูปแบบ คือสายสัญญาณสำหรับ Instrument หรือสายกีต้าร์ Cenare GS-6 และสายสัญญาณไมโครโฟน Cenare L-4E6S
สายสัญญาณไมโครโฟน
สายสัญญาณไมโครโฟน หรือสายไมค์ทั่วไปที่่ราใช้กัน เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์การเชื่อมต่อระบบเสียงที่เป็นส่วนที่มีผลต่อเสียงค่อนข้างมาก นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผู้คนได้ไขว่คว้า หาสายสัญญาณที่สามารถตอบโจทย์หูของพวกเขาให้ได้ดีที่สุด
อ่านบทความที่เกี่ยวของ
วันนี้เราจะขอยกตัวอย่างสายสัญญาณที่ใช้งานทั่วไปแต่จะเป็นสายสัญญาณ หรือสายไมค์ที่เป็นลักษณะ Star Quad Microphone Cable หรือสายตีเกลียวคู่ หุ้มด้วยชีล ตัวอย่างสายคือสายยี่ห้อ Canera รุ่น L-4E6S สายรุ่นนี้จะมี 4 ไส้ พร้อมชีลหุ้ม เป็นสายที่บิดตีคู่กันภายใน
Star Quad Microphone Cable เป็นสายสัญญาณที่ออกแบบมาเพื่อเป็นสายไมค์โดยเฉพาะ ได้ถูกคิดค้นการใช้งานมานานกว่า 60 ปี เพื่อใช้ในการส่งสัญญาณสำหรับเครื่องรับความถี่สูง โดยสายชนิดนี้ เหมาะสำหรับการทำสาย Balanced ที่ใช้ Connector แบบ XLR เชื่อมต่อระบบเสียง ภายในสายประกอบด้วยตัวนำ 4 คอร์ เป็นสายชีลแบบถัก สามารถป้องกันสัญญาณรบกวนได้มากกว่า 95% และสามารถประยุกต์ใช้งานเป็นสายพวงอุปกรณ์เสียง หรือสายสำหรับการ Wiring ในแร็คได้
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Star Quad Microphone Cable ก็คือการป้องกันสัญญาณรบกวนที่เกิดจากการเหนี่ยวนำ และเกิดจากสนามแม่เหล็ก ได้ดีกว่าสายแบบ 2 คอร์ ซึ่งอาจจะมีข้อแตกต่างจาก สายกีต้าร์ เล็กน้อย
สายสัญญาณกีต้าร์ / Instrument Cable
หากท่านใดอยู่ในวงการกีต้าร์ หรือวงการดนตรี จะเห็นว่ามีการแยกรูปแบบของสายสำหรับเดินสัญญาณอย่างชัดเจน และหลายท่านอาจจะเคยเห็นราคา สายกีต้าร์ ที่สูงมาก วันนี้เราจะมาดูข้อดีของสายแต่ละแบบกันครับ
สายที่เราจะนำมาเปรียบเทียบและศึกษาวันนี้คือสายยี่ห้อ Cenare รุ่น GS-6 ซึ่งเป็น Instrument Cable ซึ่งสายจำพวกนี้ ส่วนใหญ่จะใช้งานร่วมกับเครื่องดนตรีที่เป็นเครื่องสาย หรือเครื่องที่กำเนิดสัญญาณเสียงจาก Pickup
สายชนิดนี้เป็นสายสัญญาณที่ถูกออกแบบมาใช้งานกับระบบ Instrument เหมาะสำหรับกีต้าร์อย่างยิ่ง สายภายในเป็นสายแบบ OFC ผลิตจากทองแดงบริสุทธิ์ ความต้านทานต่ำ มีชีลแบบถัก สามารถป้องกันสัญญาณรบกวนได้มากกว่า 92%
เปรียบเทียบสาย
หากลองนำ สายกีต้าร์ และ สายไมค์ ทั้ง 2 รุ่นมาลองเปรียบเทียบเราจะสามารถเห็นความแตกต่างของการนำสัญญาณได้อย่างชัดเจนครับ โดยวันนี้เราหยิบยกเอาเพียงแค่บางหัวข้อมาเป็นข้อเปรียบเทียบครับ
1.ความต้านทานของสาย
หากลองเทียบความต้านทานของสายสัญญาณทั้ง 2 รุ่น จะได้ดังนี้
Canera GS-6 มีค่าความต้านทานอยู่ที่ประมาณ 1.8Ω
Canera L-4E6S มีค่าความต้านทานอยู่ที่ประมาณ 9.8Ω
*ทดสอบที่ความยาวสาย 100 เมตร
โดยทั่วไปแล้วสายสัญญาณที่ดีต้องมีความต้านทานที่ต่ำ เพื่อให้สามารถนำกระแสได้ดีทั้ง สายไมค์ และสายกีต้าร์
2.ค่าความจุทางไฟฟ้า
เมื่อลองเทียบค่าความจุของสายสัญญาณทั้ง 2 รุ่น จะได้ดังนี้
Canera GS-6 มีค่าความจุไฟฟ้าอยู่ประมาณ 1 pF
Canera L-4E6S มีค่าความจุไฟฟ้าอยู่ประมาณ 150 pF
*ทดสอบที่ความยาวสาย 1 เมตร
ในทางไฟฟ้า สายสัญญาณที่ดีต้องมีค่าความจุทางไฟฟ้าที่ตำ เนื่องจากหากมีค่าสูงจะก่อให้เกิด Fiter ขึ้นภายในสายสัญญาณ กล่าวคือ หากมีค่าความจุมาก จะเกิด Low Pass Filter ( LPF) ขึ้น
หากดูจากกราฟ เราจะเห็นว่า สายสำหรับ Instrument หรือ สายกีต้าร์ จะสามารถตอบสนองต่อสัญญาณเสียงสูงได้ดีกว่าสายทั่ว ๆ ไป แต่ทั้งนี้ ราคาของ Instrument บางรุ่น ก็ราคาสูงตามไปด้วย
ติดตามช่องทางต่างๆของ AT PROSOUND