Isolate Box วิธีใช้แบบเข้าใจง่าย

Isolate Box

Isolate Box วิธีใช้แบบเข้าใจง่าย | สวัสดีครับ ผมนัทเอทีครับ กลับมาพบกันอีกเช่นเคยพร้อมกับบทความใหม่ ๆ และบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเจ้า “Isolate Box” หรือ “Isolator” กันครับ ว่ามันคืออะไร มีหน้าที่อะไร และใช้งานอย่างไรให้ถูกต้อง 

isolate box

Isolate Box คืออะไร ?

ถ้าพูดกันง่าย ๆ เลยก็คือ “กล่องป้องกัน ไฟย้อน” นั่นเอง แม้หน้าตาภายนอกจะดูเหมือนกับ DI Box แต่ไอโซเลทบ๊อกซ์นั้นมีหน้าที่ต่างจาก DI Box อย่างชัดเจน หน้าที่หลัก ๆ ของ DI Box ก็คือ การแปลงสัญญาณ Unbalanced เป็น Balanced แต่ไอโซเลทบ๊อกซ์หน้าที่หลัก ๆ ของมันก็คือ การป้องกัน ไฟย้อน และป้องกันการเกิด Ground Loop ในอุปกรณ์ระบบเสียง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดนตรี หรือแม้กระทั่ง Sound Engineer ที่ใช้อุปกรณ์ระบบเสียงในเกรดราคาเท่าไหร่ก็ตาม ไอโซเลทบ๊อกซ์ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในด้านความปลอดภัย

รูปร่างหน้าตาภายนอก และส่วนต่าง ๆ ของไอโซเลทบ๊อกซ์ ทำหน้าที่อะไรบ้างนั้น สามารถอธิบายตามรูปภาพได้ดังนี้ :

isolate box

isolate box

  1. Input ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ระบบเสียงอื่น ๆ เพื่อรับสัญญาณเสียงเข้าสู่ไอโซเลทบ๊อกซ์
  2. Output ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ระบบเสียง ที่จะส่งสัญญาณเสียงจากไอโซเลทบ๊อกซ์ออกไป
  3. Ground – Lift Switch ทำหน้าที่ตัด Ground ของสัญญาณเสียง ที่เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ให้แยกออกจากกัน เพื่อป้องกันการเกิด Ground Loop ซึ่งเป็นที่มาของเสียงฮัม เสียงจี่ หรือ Noise ทั้งหลายนั่นเอง

฿4,200.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
฿3,700.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
฿4,200.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿2,400.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
฿2,400.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

D.I. BOX

dbx Di1

฿2,890.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

D.I. BOX

Radial USB-Pro

฿10,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
฿13,600.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿4,300.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿3,700.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
฿3,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

D.I. BOX

dbx DJDI

฿2,390.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

 

วิธีใช้งาน Isolate Box

ในเรื่องของวิธีใช้งานนั้น ไอโซเลทบ๊อกซ์มีวิธีใช้งานที่ง่าย และไม่ซับซ้อน ก็คือ จะเป็นส่วนที่ใช้เชื่อมต่อกันระหว่างอุปกรณ์ระบบเสียง ซึ่งสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบตามสถานการณ์

isolate box

ยกตัวอย่างเช่นในกรณีนี้ เป็นการเชื่อมต่อระหว่างดิจิตอลมิกเซอร์ Midas M32R-Live และครอสโอเวอร์ Ce-anCe DSP-48 หากอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีไอโซเลทบ๊อกซ์นั้น จะเป็นการเชื่อมต่อกันโดยตรงระหว่างทั้ง 2 อุปกรณ์ ถ้าหากบังเอิญเกิดปัญหาที่ระบบไฟฟ้า เช่น ไฟเกินเข้ามาที่สายสัญญาณ ก็มีโอกาสสูงที่กระแสไฟจะย้อนกลับมาทำลายระบบอุปกรณ์ของดิจิตอลมิกเซอร์ หรือแม้กระทั่งทั้ง 2 อุปกรณ์ก็เป็นได้

เพื่อเป็นการแก้ปัญหา หรือป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น ไอโซเลทบ๊อกซ์จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะช่วยให้งานระบบเสียงของคุณ เป็นไปอย่างราบรื่น รวมถึงความปลอดภัยทั้งชีวิต และทรัพย์สิน โดยวิธีนั้นก็ง่าย ๆ เพียงแค่ใช้ไอโซเลทบ๊อกซ์เป็นตัวกั้นกลางระหว่างดิจิตอลมิกเซอร์ Midas M32R-Live และครอสโอเวอร์ Ce-anCe DSP-48

สามารถทำตามขั้นตอนได้ดังนี้ :

  1. ส่งสัญญาณจาก Output ของดิจิตอลมิกเซอร์ Midas M32R-Live โดยใช้สายสัญญาณ XLR (Balanced) เสียบเข้ามาที่ Input ของไอโซเลทบ๊อกซ์
  2. จากนั้นส่งสัญญาณจาก Output ของไอโซเลทบ๊อกซ์ โดยใช้สายสัญญาณ XLR (Balanced) เสียบเข้ามาที่ Input ของครอสโอเวอร์ Ce-anCe DSP-48
  3. อย่าลืมกดปุ่ม Ground – Lift Switch ด้วยนะครับ เพื่อป้องกันการเกิด Ground Loop นั่นเอง

เพียงแค่ 3 ขั้นตอนง่าย ๆ เท่านี้ก็สามารถทำงานระบบเสียงได้อย่างปลอดภัย ไร้ความเสี่ยงแล้วครับ

หลักการทำงาน

  • การป้องกัน ไฟย้อน

เมื่อไอโซเลทบ๊อกซ์รับสัญญาณเสียงผ่านสายสัญญาณ เสียบเข้ามาที่ Input ก่อนที่สัญญาณนั้นจะถูกส่งไปยัง Output หากว่าสัญญาณเสียงที่เข้ามานั้น มีกระแสไฟเกินได้ไหลเข้ามาผ่านสายสัญญาณ กระแสไฟนั้นจะไม่สามารถไหลผ่านไอโซเลทบ๊อกซ์ไปได้ เพราะภายในไอโซเลทบ๊อกซ์ จะมีหม้อแปลงที่ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำไฟฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้กระแสไฟไหลผ่านไปได้ ไม่ว่ากระแสไฟนั้นจะมาจาก Input หรือ Output ก็ตาม 

isolate box

  • การป้องกัน Ground Loop

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ส่วนที่มีหน้าที่ในการจัดการกับปัญหา Ground Loop นั่นก็คือ Ground – Lift Switch เมื่อทำการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ทั้ง 2 ตัว ซึ่งแน่นอนว่าทั้งดิจิตอลมิกเซอร์ และครอสโอเวอร์ ต่างก็ต้องใช้ไฟฟ้า โดยธรรมชาติของกระแสไฟเกินต้องวิ่งลง Ground เสมอ ดังนั้นเมื่อกระแสไฟเกินของทั้ง 2 อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันโดยตรงวิ่งมาเจอกันใน Ground เดียวกัน จะเกิดกระแสไฟฟ้าไหลเวียนที่วนลูปกัน เรียกว่า Ground Loop นั่นเอง เมื่อกด Ground – Lift Switch จะเป็นการแยก Ground ออกจากกัน ดังนั้นก็จะไม่เกิด Ground Loop ที่เป็นสาเหตุของเสียงฮัม เสียงจี่ และ Noise ทั้งหลายนั่นเอง

สรุป

ไอโซเลทบ๊อกซ์เป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับปัญหาไฟฟ้า ในการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์โดยเฉพาะ ถึงแม้จะหน้าตาดูคล้ายคลึงกับ DI Box ทั่วไป แต่จริง ๆ แล้ว ต่างกันที่วัตถุประสงค์การใช้งานเท่านั้นเอง ดังนั้นไอโซเลทบ๊อกซ์จึงมีความสำคัญ และมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ ที่คนทำงานเกี่ยวกับระบบเสียงติดตั้ง ไลฟ์ซาวด์ ควรมีติดไว้ใช้งาน เพื่อความปลอดภัยต่ออุปกรณ์ของคุณ และยังช่วยให้งานระบบเสียงนั้น ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นอีกด้วย

 

ติดตาม Facebook AT Prosound

บทความโดย : ณัฐพจน์ วิจารัตน์


สินค้าแนะนำตามความสนใจ

สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿79.00฿7,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿55.00฿5,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
฿135.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
฿145.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿44.00฿3,600.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿93.00฿7,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿34.00฿2,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)
สินค้าสั่งจอง
สินค้าสั่งจองล่วงหน้า
฿71.00฿6,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

บทความที่คุณอาจชอบ ในหมวดหมู่เดียวกัน

ใส่ความเห็น