ประวัติ Solid State Logic (SSL) ยักษ์ใหญ่แห่งอังกฤษ
ข่าววงการเสียง, ดนตรี
จากต้นโอ๊กต้นเล็ก เติบโตเป็นสุดยอดแบรนด์
ในช่วง 50 ปีแห่งนวัตกรรม Solid State Logic ได้พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นผู้นำในการผลิตมิกเซอร์แบบอะนาล็อกและดิจิตอล เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายทอดสด สตูดิโอ งานภาพยนตร์และการออกอากาศ
เลือกอ่านตามช่วงเวลา
สตูดิโอ สำหรับมหาวิทยาลัย
อุปกรณ์ควบคุม DAW/Plugin
อุปกรณ์ควบคุม DAW/Plugin
คอมเพรสเซอร์ เกท และ ดีเอสเซอร์
คอมเพรสเซอร์ เกท และ ดีเอสเซอร์
คอมเพรสเซอร์ เกท และ ดีเอสเซอร์
จัดชุดอุปกรณ์จูนเสียง
ปี 1970
Solid State Logicก่อตั้งขึ้นเมื่อปลายปี 1969 โดยโคลินแซนเดอร์ส ผลิตภัณฑ์แรกของ บริษัท คือระบบสวิตช์สำหรับไปป์ออแกน (pipe organs) โดยใช้ชื่อว่า “Solid State Logic”
โคลินจึงเริ่มจากสร้างสตูดิโอของเขา ชื่อ Acorn Studios ในหมู่บ้าน Stonesfield ออกซ์ฟอร์ดเชียร์ ที่เขาอาศัยอยู่ และเริ่มสร้างงานของเขาที่นั่น ในปี 1976 เขาได้สร้างมิกเซอร์ A ซีรีย์ ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งผลิตขึ้นมา ขาย 2 ตัว และด้วยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสิ่งต่าง ๆ เสมอ คอลลินจึงคิดค้นมิกเซอร์ใหม่เป็น SL 4000 B ซีรีย์ ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1976 เมื่อโคลินพัฒนามิกเซอร์ไปจนถึง ซีรีย์ ที่6 ทาง SSL ก็ทำการตลาดออกสู่สากล
ปี 1980
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ของ โซลิดสเตตลอจิก นั้น มาพร้อมกับการเปิดตัว SL 4000 E Series ในปี 1979 มิกเซอร์ที่พลิกผันอุตสาหกรรมดนตรี รวมไปถึงรุ่นอื่นๆ เช่น SL 4000 G Series, 6000, 8000, 9000J และ 9000K ก็เป็นรุ่นที่ครองวงการสตูดิโอบันทึกเสียงในระดับมืออาชีพมานานกว่า20ปี
โปรเจค SSL’s digital R&D ได้เริ่มขึ้นในปี 1985 โปรดักส์แรกมีชื่อว่า 01 เป็นตัวบันทึก และแก้ไขเสียง มีทั้งหมด 8 ชาแนลเทคโนโลยีนี้ ถูกสร้างและพัฒนาขึ้น เพื่อสร้างมิกเซอร์ดิจิตอล ซีรีย์แรก ที่วางจำหน่ายในช่วงปี 1990
ปี 1986
ในปี 1986 บริษัท ได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปยัง Begbroke Manor มีพี้นที่ของบริษัทผลิตขนาด 4,000 ตารางเมตร เปิดตัวในปี 2531 ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ของ บริษัท อยู่ที่ประเทศอังกฤษ
ปี 1990
ในยุค 90 เป็นอีกช่วงแห่งความรุ่งเรืองของนวัตกรรมและเทคโนโลยีของ SSL ในวงการสตูดิโอบันทึกเสียง ซึ่งทาง Solid State Logic ได้เปิดตัว Ultimation ระบบเฟดเดอร์มอเตอร์อัตโนมัติ เพื่อใช้พัฒนาแนวคิดระบบมิกเซอร์อัตโนมัติ และยังมีการเปิดตัวLogicFX G383 EQ and G384 Stereo Bus Compressor ผลิตภัณฑ์ของ SSL ที่ออกแบบมาเพื่องานสตูดิโอ
เกร็ดเทคนิค
ในบางครั้งมอเตอร์เฟดเดอร์ เมื่อใช้ไปนานๆ การเลือนขึนลงอัตโนมัติ อาจจะมีความคลาดเคลื่อน ทำให้เลือนไปไม่ตรงค่าที่ควรจะเป็น นี่เป็นวิดิโอปรับจูนมอเตอร์ของเฟดเดอร์ รุ่น Ultimation ให้กลับมาเลื่อนขึ้น-ลงไปตามค่าต่างๆได้เป็นมาตรฐาน
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเทคโนโยลีอนาล็อก คือ การเปิดตัว SuperAnalogue ซึ่งมีการใช้งานครั้งแรกในมิกเซอร์รุ่น SL 9000 J Series
ในโลกของดิจิตอลSolid State Logic ได้พัฒนา ScreenSound, 8 track DAW, VisionTrack,เครื่องเล่นวิดีโอ, Scenaria,เครื่องบันทึกมัลติแทร็ค, editor,มิกเซอร์ดิจิตอล,ระบบในโรงภาพยนตร์ เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อสร้างมิกเซอร์ดิจิตอล A Series ที่วางจำหน่ายในช่วงปี 1990 และปีต่อ ๆ ไป
ปี 2000
ปี2003 C100 มิกเซอร์สถานีวิทยุ และ C200 มิกเซอร์ที่ใช้ในงานโปรดักชั่น เป็นเจเนอเรชั่นใหม่ ของเทคโนโลยีดิจิตอลเพื่องาน broadcast และ production ต่อมาในปี 2005 ก็มี C300 มิกเซอร์ที่ใช้ในงาน Post-Production ซึ่งมีแชนแนลทั้งหมด 512 แชนแนล และ มี multiple simultaneous mix เป็นระบบ 7.1 surround sound ในปี 2008 Solid State Logic ได้เปิดตัว C100 HDS และ C10 HD มิกเซอร์สถานีวิทยุ ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์
แล้วการมาถึงของ hybrid studio ก็มาถึง เป็นเจเนอเรชั่นใหม่ โดย AWS เปิดตัวในปี 2004 ตามมาด้วย Duality ในปี 2006 เป็นการรวมมิกเซอร์อนาล็อกเข้ากับเทคโนโลยีการประมวลผลเข้ากับการควบคุมฮาร์ดแวร์ DAW ในผู้ใช้ ที่เป็นผู้ใช้คนเดียว หรือ single user นวัตกรรมนี้ถูกพัฒนามาต่อเนื่อง และเป็นหัวใจของการผลิตเสียงดนตรีของ SSL
ปกติแล้วการควบคุม DAW นั้นมีหลากหลายวิธีและในปัจุบัน SSL ยังคงมีระบบเฟดเดอร์แบบมอเตอร์อัตโนมัติ รวมถึงการเรียกคืนสินค้า และการควบคุมการขนส่งที่แน่นอน
บริษัท ได้ย้อนวันวานช่วงของการเป็นสตูดิโอเล็กๆที่กำลังเต็บโตด้วยการเปิดตัว SuperAnalogue ™ Channel, Multi-Channel Bus Compressor และ 1U Stereo Bus Compressor ไฮบริดสตูดิโอ (hybrid studio) ถูกนำไปใช้ในภาคสตูดิโอในโครงการเมทริกซ์ เปิดตัวในปี 2008 มีทั้งหมด 40 อินพุต ระบบควบคุม DAW ขั้นสูงหลายขั้นตอน ต่อมาในปี 2010 Solid State Logicได้เปิดตัว Nucleus มิกเซอร์ที่ใช้ควบคุม DAW เชิงลึก
ปี 2010
Solid State Logic ได้เปิดตัว Sigma เป็นมิกเซอร์ตัวใหม่ ให้เสียงที่เป็นอนาล็อก เข้ามาใช้ในสตูดิโอ เป็นตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยีอนาล็อกที่ชื่อว่า Ctrl ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายนี้ ทำให้เข้าถึงผู้ใช้หลายพันราย ทำให้ SSL มีชื่อเสียงในวงการเสียง
- ปี 2013 Solid State Logicได้เปิดตัว L500 มิกเซอร์ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ สำหรับงาน ไลฟ์ซาวด์ SSL live console เป็นพื้นฐานของ Tempest แพลตฟอร์มการประมวลผล และเป็นการนำนวัตกรรมที่หลากหลายต่างๆเข้ามา จากนั้นระบบ T ได้เปิดตัวปี 2016 เพื่อตอบสนองความต้องการในการผลิตรายการ Broadcast ด้วยระบบดันเต้ (Dante) ซึ่งสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Tempest ที่พัฒนามาเพื่อ Live consoles
- ปี2015 เราได้เห็นการเปิดตัวมิกเซอร์อัตโนมัติ SSL δelta-Control (δ-Ctrl) ผสานรวมกับ มิกเซอร์อนาล็อกที่ดีที่สุด ทำงานร่วมกับ โปรแกรม DAW ที่มีการแสการทำงานเป็นขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ
- ปี 2017 Solid State Logic ถูกซื้อโดย Audiotonix และตั้งแต่นั้นมา บริษัท ก็ยังคงคิดค้นสิ่งใหม่ๆด้วยโปรดักใหม่ๆที่ใช้ใน studio analogue เช่น Fusion, SiX และ ORIGIN เป็นต้น
สรุป
จะเห็นว่าตลอดระยะเวลา ปี Solid State Logic ได้มีการพัฒนาบริษัท มีเทคโนโลีใหม่ๆ มีตัวโปรดักซ์ออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นมิกเซอร์อนาล็อก หรือ ดิจิตอล หรือที่นิยมในปัจจุบันก็จะมี ออดิโออินเตอร์เฟส อย่าง SSL2 และ SSL2+ อีกทั้งงานสตูดิโอ งานภาพยนต์ งานออกอากาศของสถานีวิทยุต่างๆ ทำให้เห็นว่า เป็นเบรนด์ชั้นนำจากอังกฤษที่ได้รับความนิยมในวงการดนตรีเรื่อยมา
อ้างอิงข้อมูล และขอบคุณรูปภาพจาก: solidstatelogic
สินค้าแนะนำตามความสนใจ
