อากาศร้อน มีผลต่อเสียงอย่างไร
มาอีกแล้วครับ ทริคและความรู้ด้านเสียงจาก ATprosound
วันนี้มาแบบเข้าบรรยากาศร้อนๆ แบบร้อนสุดๆของเมืองไทย ว่าด้วยผลของอุณหภูมิต่อเสียงในงาน Live sound
หลายท่านอาจจะเคยสังเกตว่าเมื่ออากาศร้อนขึ้น หรือหนาวลงมากๆนั้น เสียงเครื่องเสียงเราเปลี่ยน มันเป็นไปได้หรือไม่ ถ้าเป็นไปได้แล้วมีสาเหตุจากอะไรกันแน่?
ใช่ครับ อากาศร้อนทำให้เสียงเดินทางได้เร็วขึ้น
ข้อนี้จะมีผลกับการค่าดีเลย์เมื่อมีลำโพงตั้งอยู่หลายๆจุด แต่ตรงนี้ผลที่เกิดขึ้นนั้นไม่เยอะในสภาวะปกติ เพราะอัตราความเร็วที่เปลี่ยนมีค่าน้อยต่อพื้นที่ (เปลี่ยนแปลงระดับ 1-3 เมตร ต่อพื้นที่ 100 เมตร) ข้อนี้จึงไม่ใช่ประเด็นสำคัญมากนัก
ข้อสังเกตหนึ่งที่น่าสนใจจากข้อนี้คือ หลายๆคนเข้าใจผิดว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้เราได้ยินเสียงแหลมมากขึ้นในอากาศร้อนจริงๆแล้ว เสียงเดินทางเร็วเพิ่มขึ้นในทุกๆความถี่เท่าๆกัน การเดินทางเร็วขึ้นของเสียง จึงไม่ใช่สาเหตุทำให้เรารู้สึกว่าโทนเปลี่ยนส่วนจะเป็นสาเหตุไหน ให้ตามอ่านในข้อต่อๆไปนะครับ
สถานการณ์หนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเสียงและอุณหภูมิ คือ เมื่ออากาศที่พื้นเย็นกว่าอากาศด้านบน จะทำให้เสียงเดินทางได้ไกลขึ้น
เมื่อถึงจุดเปลี่ยนของอุณหภูมิ เสียงที่ขึ้นข้างบน จะหักเหลงมาที่พื้น ทำให้เสียงไปได้ไกลขึ้น จุดนี้ยังไม่ใช่จุดสำคัญของช่างซาวด์ เพียงแต่เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจจึงหยิบมาเล่าให้ฟังกัน
และถ้าสภาวะตรงข้าม คือ ที่พื้นร้อน และอากาศข้างบนเย็นกว่า เสียงข้างล่างจะหักเหขึ้นข้างบน ทำให้เสียงที่พื้นนั้นเดินทางได้ไกลน้อยลง หรือพูดง่ายๆว่าเสียงจะเบากว่าปกตินั้นเอง
มาถึงประเด็นสำคัญที่ช่างซาวด์ทุกคนต้องเคยเจอ สภาวะแหลมเยอะตอนกลางวัน และแหลมที่น้อยลงตอนกลางคืน
แบบนี้จะมีปัญหาเวลาซาวด์เชคกลางวัน และโชว์กลางคืน ที่อุณหภูมิต่างกันมากๆ และได้เสียงที่ไม่เหมือนกัน
เราจะทำอย่างไรได้บ้าง มาเริ่มด้วยความเข้าใจสิ่งนี้ก่อน
1. เสียงแพร่กระจายผ่านอากาศ และอากาศสามารถดูดซับพลังงานจากคลื่น ตั้งแต่ 2K ขึ้นไปได้ โดยยิ่งความถี่สูง จะยิ่งถูกดูดซับมากขึ้นเสียง (air attenuation)
2. การดูดซับของเสียงในอากาศได้รับผลกระทบจากความชื้นในอากาศ
3. อากาศแห้งจะดูดซับพลังงานเสียงได้ดีกว่าอากาศชื้นเนื่องจากอากาศชื้นมีความหนาแน่นน้อยกว่าอากาศแห้ง (ไอน้ำมีน้ำหนักน้อยกว่าอากาศ)
4. เมื่ออุณภูมิสูงขึ้นค่าความอิ่มตัวของน้ำในอากาศสูงขึ้น ค่าความชื้นสัมพัทธ์สูงขึ้น ทำให้อากาศดูดซับเสียงแหลมได้น้อยลง ทำให้เราได้ยินเสียงแหลมมากขึ้น
วิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับการรับมือสิ่งนี้คือ คือการปรับ EQ Hi Shelve ตั้งแต่ความถี่ 2 k ขึ้นไป ที่เอาท์พุทของมิกซ์เซอร์ หรือที่คอนโทลเลอร์ ตามอุณหภูมิและความชื้นที่เปลี่ยนไป โดยสามารถคำนวณค่า dB ที่เปลี่ยนไปได้ในแอปมือถือที่สามารถคำนวณค่า Air attenuation ได้ เช่นฟรีแอป DDT Calc ในไอโฟนและเราสามารถดูความชื้นคร่าวๆ ได้ในแอปพยากรณ์อากาศจากมือถือ หรือในงานที่ซีเรียสหน่อย ก็สามารถใช้เครื่องวัดความชื้นได้ที่หน้างาน เท่านี้ก็จะสามารถแก้ปัญหาเสียงที่ต่างกันระหว่างเวลาซาวด์เชคกับเวลาโชว์ได้ตรงจุดมากขึ้น
และนี่ก็เป็นปัจจัยเรื่องอุณหภูมิต่อเสียงที่สำคัญสำหรับงาน Live sound ที่เพจ AT หยิบมาฝากช่างเสียงเพื่อเป็นทริคในการใช้งาน
ยังไงก็ตามสิ่งที่ลืมไม่ได้คือ เมื่ออากาศร้อนขึ้น อย่าลืมดูแล หาร่มและพัดลมมาให้อุปกรณ์ของเรากันด้วยนะครับ
เพราะอากาศเมืองไทยโหดขนาดนี้ ทั้งคนทั้งเครื่องก็คงต้องดูแลกันดีๆเลยล่ะครับ โดยเฉพาะชาวเครื่องเสียงกลางแจ้งหลายๆท่าน
สำหรับวันนี้เพจ AT ขอลาเรื่อง “อากาศร้อน มีผลต่อเสียงอย่างไร?” ไปแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณมากครับ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง