AES/EBU คืออะไร ใช้งานอย่างไร?

AES/EBU หมายถึงอะไร? สวัสดีครับ ผมนัทเอที บทความนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องการ ส่งสัญญาณเสียงแบบดิจิตอล AES/EBU หรือ AES3 ว่าคืออะไร และใช้งานอย่างไรกันแน่ ก่อนอื่นเลยหากคุณกำลังใช้ หรือผ่านการใช้งาน Digital Mixer ตั้งแต่ราคาไม่สูงจนถึงราคาสูงๆ เช่น Behringer X32 , Behringer X32 Compact , Midas M32 หรือ Midas Pro Series เป็นต้น หลายท่านคงสังเกตุเห็นช่องส่งสัญญาณเสียง AES/EBU กันบ้างแล้วใช่ไหมครับ

จากข้อจำกัดในการส่งสัญญาณเสียงแบบอนาล็อกในอุปกรณ์ดิจิตอล ยกตัวอย่าง การเชื่อมต่อ ไมโครโฟน กับ มิกเซอร์ดิจิตอล ไปจนถึงครอสโอเวอร์ดิจิตอล สัญญาณจาก ไมโครโฟน เมื่อเชื่อมต่อกับดิจิตอลมิกเซอร์ จะถูก Converter (แปลงสัญญาณ) จาก อนาล็อก (Analog) เปลี่ยนเป็นดิจิตอล (Digital) หรือเรียกว่า A/D จากนั้นเสียงที่จะต้องออกจากมิกเซอร์ดิจิตอลจะถูกแปลงสัญญาณจากดิจิตอล (Digital) เป็น อนาล็อก (Analog) หรือเรียกว่า D/A เพื่อนำเสียงไปเข้าอุปกรณ์เสียงอื่นๆ ทีนี้ถ้าอุปกรณ์เสียงตัวถัดไปเป็นดิจิตอล ยกตัวอย่าง ครอสโอเวอร์ดิจิตอล ก็ต้องแปลงสัญญาณเป็น A/D อีกรอบ เป็นการแปลงแบบซ้ำไปซ้ำมา ทำให้คุณภาพของเสียงลดลง

ระบบ AES3 จึงเกิดมาเพื่อแก้ปัญหา คือ การส่งสัญญาณเสียงแบบดิจิตอล 2 แชนแนลในสายเส้นเดียว เป็นแบบ PCM (Pulse Code Modulation) ซึ่งสามารถพบเห็นได้ไม่ยากในระบบเสียงปัจจุบัน โดยการส่งสัญญาณเสียงจะเป็นดิจิตอลตลอดเส้นทาง โดยไม่ต้องถูก Converter (แปลงสัญญาณ)ไปมา ดังนั้นระบบ AES3 จึงมีไว้เพื่อคงคุณภาพของเสียงเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั่นเองครับ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

สายสัญญาณ Sommer

7 เคล็ดลับ ต้องรู้ก่อนเลือกซื้อ DSP

ซึ่งพอร์ทการเชื่อมต่อจะมีด้วยกัน 2 แบบหลักๆ

1.ก็คือส่งสัญญาณโดยใช้ช่องสัญญาณ AES3 นั่นเอง ซึ่งพอร์ทการเชื่อมต่อจะมีลักษณะเป็นสาย XLR พบเห็นได้ตามดิจิตอลมิกเซอร์ ครอสโอเวอร์ เพราเวอร์แอมป์ อุปกรณ์ต่างๆในระบบเสียง แต่สายสัญญาณที่ใช้จะต้องเป็นสายสัญญาณดิจิตอล ถ้าเป็นสัญญาณ Balanced ต้องมีค่า Impedance (ความต้านทาน) อยู่ที่ 110 ohms หากเป็นสายสัญญาณ Unbalanced ต้องมีค่า Impedance อยู่ที่ 75 ohms เท่านั้น สามารถส่งข้อมูลได้ไกล ในระดับ 100 เมตร

(ขอบคุณรูปภาพจาก Hosa Technology)

2.การเชื่อมต่อรูปแบบนี้เราจะพบเห็นกันได้ทั่วไปตามอุปกรณ์ระบบเสียงเกรด Consumer ทั่วไป อย่างเช่น Audio Interface เครื่องเล่น DVD นั่นก็คือการเชื่อมต่อ S/PDIF นั่นเองครับ พอร์ทการเชื่อมต่อจะมีลักษณะคล้ายๆกับสายสัญญาณ RCA ทั่วไป แต่จะส่งสัญญาณดิจิตอลได้ 2 แชนแนลครับ

(ขอบคุณรูปภาพจาก Lindy Connections Perfection)

ข้อควรระวัง

ในการใช้งานระบบ AES3 จะใช้ได้ระหว่างอุปกรณ์เสียงที่มีการรองรับพอร์ตเชื่อมต่อแบบ AES3 เท่านั้น
ควรเลือกใช้สายสัญญาณดิจิตอลให้ตรงตามอุปกรณ์ที่ใช้ เช่น หากอุปกรณ์เสียงรุ่นที่ใช้มีพอร์ตเชื่อมต่อ XLR ให้เลือกใช้เป็นสาย Balanced ที่มีค่า Impedance ที่ 110 ohms หรือสาย Unbalanced มีค่า Impedance ที่ 75 ohms หากเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ S/PDIF ควรเลือกใช้เป็นสาย Optical ครับ

ติดตาม Facebook AT Prosound

บทความโดย : ณัฐพจน์ วิจารัตน์